เครือข่ายผู้นำป่าชุมชนกล้ายิ้ม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ น้อมนำศาสตร์พระราชาเพื่อการพัฒนาป่าชุมชนอย่างยั่งยืน ตามแนวทางคนอยู่ดี ธรรมชาติอยู่ได้ โดยมีกรมป่าไม้ และบมจ. ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง ขับเคลื่อนภายใต้กิจกรรมสัมมนาเครือข่ายผู้นำป่าชุมชน ในโครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน

           นางบุญทิวา ด่านศมสถิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กิจกรรมสัมมนาเครือข่ายผู้นำป่าชุมชนกล้ายิ้มรุ่นที่ 17 ที่จังหวัดขอนแก่น ได้น้อมนำหลักการดูแลป่าและการใช้ประโยชน์จากป่าของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาเป็นแนวทางให้ผู้นำป่าชุมชนจากจังหวัดต่างๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวน 80 คนได้ศึกษาเรียนรู้และนำไปประยุกต์ใช้ต่อยอดบริหารจัดการ พัฒนา และใช้ประโยชน์ป่า บนหลักการป่ายั่งยืน ชุมชนได้ประโยชน์จากป่าในการดำรงชีพ

         “ผู้เข้าร่วมสัมมนาเครือข่ายฯ จะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ศาสตร์พระราชาด้านการพัฒนาชุมชนที่ชุมชนบ้านท่าพระยาณรงค์ ตำบลศรีสุขสำราญ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น นำมาประยุกต์ใช้จนพ้นจากความยากจน มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและกลายเป็นชุมชนต้นแบบที่มีผู้คนเข้าไปศึกษาเรียนรู้มากมาย นอกจากนี้ยังจะได้เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และหลักการปลูกป่า 3 อย่างได้ประโยชน์ 4 อย่าง ที่บ้านท่าพระยาณรงค์ นำมาใช้พัฒนาป่าแบบวนเกษตร ซึ่งเป็นการดูแลป่าพร้อมกับการปลูกพืชผักสมุนไพรและไม้ใช้สอยแบบผสมผสานแซมไว้ในพื้นที่ป่า ไม่เพียงช่วยพัฒนาคุณภาพดินให้อุดมสมบูรณ์ แต่ยังช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนมีความเป็นอยู่ที่ดี มีรายได้เลี้ยงครอบครัวตลอดปี

          นอกจากนี้ยังจะได้ศึกษาหลักการจัดการน้ำด้วยฝายเก็บน้ำ ซึ่งช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำและรักษาความชุ่มชื้นของป่า จากโครงการฝาย มข.58 ซึ่งเป็นฝายต้นแบบของความสามัคคีของคนในชุมชน โดยมีสำนักงานปิดทองหลังพระให้คำปรึกษา บริษัทฯ และกรมป่าไม้ในฐานะพันธมิตร ตลอดจนผู้นำป่าชุมชนทั้ง 80 คน ล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 อย่างหาที่สุดมิได้ ทุกฝ่ายตั้งมั่นที่จะสืบสานพระราชปณิธานและน้อมนำศาสตร์ของพระองค์ที่เรียนรู้จากการสัมนาครั้งนี้ไปต่อยอดขยายผลพัฒนาชุมชนและบริหารจัดการป่าชุมชนให้มีความยั่งยืนต่อไป”นางบุญทิวา กล่าว

           ทั้งนี้ การสัมมนาเครือข่ายผู้นำป่าชุมชน เป็นกิจกรรมภายใต้โครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ที่มุ่งส่งเสริมศักยภาพของประชาชนในท้องถิ่น ด้วยการเพิ่มพูนความรู้ พัฒนาความสามารถด้านการบริหารจัดการทรัพยากรท้องถิ่น เพื่อให้สามารถรักษาและดูแลป่าได้อย่างเข้มแข็ง 

           สำหรับรูปแบบการสัมนาจะเน้นการระดมความคิด การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการจัดการป่า ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ จากผู้นำป่าชุมชนที่เข้าร่วมสัมมนา ซึ่งมาจากพื้นที่ที่แตกต่างทั้งสภาพภูมิประเทศและสภาพปัญหา การนำบทเรียนของแต่ละป่าชุมชนมาเล่าสู่กันฟังจะช่วยจุดประกายความคิดใหม่ๆ นำไปสู่การต่อยอดการพัฒนาและรักษาป่าให้คงอยู่จากรุ่นสู่รุ่น ชุมชนสามารถใช้ประโยชน์จากป่าแบบเกื้อกูล สามารถลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ของครอบครัวและมีชีวิตที่เป็นสุข ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการอนุรักษ์ป่าแบบยั่งยืนที่โครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปีที่ 10  

           นายทองแดง แก้วศรีนวน ประธานป่าชุมชนภูผาผึ้ง ต.นาอุดม อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร เล่าว่า การเข้าร่วมสัมมนาเครือข่ายในครั้งนี้เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับป่าชุมชนอื่นๆ การดูแลป่าชุมชนเป็นงานที่ต้องได้รับความร่วมมือจากชาวบ้าน โดยได้นำวิธีการจัดการแบบสายกลาง ทั้งการชักชวนให้ดูแลป่าและตั้งกติกาเพื่อให้อยู่ร่วมกับป่า

           ที่สำคัญได้นำหลักการแนวคิดของในหลวงรัชกาลที่ ๙ มาปฏิบัติทั้งแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง เลี้ยงกบ ปลูกผัก ให้ชาวบ้านมีรายได้ นำชาวบ้านมาร่วมอบรมป่าชุมชน ให้พันธุ์ต้นกล้าไปปลูก และบอกชาวบ้านว่าการเผาป่าเป็นการทำบาปเพราะทำให้สัตว์ไม่สามารถหากินได้ เพื่อให้ชาวบ้านเห็นคุณค่าและมีความเข้าใจ เมื่อเกิดเหตุไฟป่าในหน้าแล้ง ชาวบ้านก็เข้ามาร่วมดับไฟ

          อีกทั้ง ตนเองในฐานะประธานโรงเรียน ได้นำแนวทางการดูแลป่าชุมชนไปเผยแพร่ในโรงเรียน นำเด็กนักเรียนมาร่วมกิจกรรมปลูกป่าผูกเสี่ยวต้นไม้ ชักชวนให้ลูกหลานไปบอกผู้ปกครองให้ช่วยกันดูแลป่าและไม่ตัดต้นไม้ ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากชาวบ้าน ทั้งหมดนี้ เพื่อให้ทุกคนได้รู้คุณค่าของป่า รู้จักประยุกต์ใช้ บนหลักการป่ายั่งยืน ชุมชนได้ประโยชน์จากป่าในการดำรงชีพต่อไป