"ผักโขม"เป็นผักพบได้ตามริมรั้ว ริมแนวทางเดิน ที่รกร้างว่างเปล่า ต่อเมื่อได้รับความนิยมจากผู้บริโภค ด้วยนำมาทำอาหารได้หลากเมนูปัจจุบันจึงได้มีการปลูกเชิงพาณิชย์กันบ้างแล้ว ทว่า เหนืออื่นใด ประโยชน์สรรพคุณทางยา ซึ่งมีผลการวิจัยช่วยบรรเทาสารพัดโรค จึงทำให้ผักชนิดนี้ได้รับความนิยมกว้างขวางขึ้น
เป็นไม้ล้มลุก วงศ์ AMARANTHACEAEชื่อสามัญ Spiny amaranth ชื่อพื้นเมือง กะเหม่อลอมี แม่ล้อดู่ หมั่งลั้งดุ่ ผักขมหนาม ผักโหม มีหลายพันธุ์ แต่พันธุ์ที่นิยมกินคือผักโขมจีน ผักโขมสวน ผักโขมหัด และผักโขมหนาม
ลำต้น สูง 15-100 ซม.ต้นกลมหรือเป็นเหลี่ยม สีเขียวแกมม่วงส้ม มีขนเล็กน้อย มีหนามตามข้อ กิ่งก้านมาก
ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกสลับกัน รูปใบหอกแกมรูปไข่ โคนสอบเรียวปลายใบแหลมมน ใบเกลี้ยง
ดอก ออกเป็นช่อตามยอดและง่ามใบ ไม่มีก้านดอก ดอกเพศผู้อยู่เหนือโคนช่อดอก
ผล แห้งแตกได้ รูปขอบขนาน ปลายแยกเป็น 3 พู ภายในมีเมล็ดมาก
ขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด เจริญเติบโตได้ดีในดินทุกสภาพทั่วๆไป
คุณค่าทางอาหาร
นักโภชนาการได้ศึกษาคุณค่าทางอาหารของผักโขม ขนาด 100 กรัม พบว่าให้พลังงาน 23 กิโลแคลลอรี่ มีสารอาหารสำคัณ ประกอบด้วย ไขมัน 4% โซเดียม 3% โพแทสเซียม 558mg คาร์โบไฮเดรตทั้งหมด 3.6g กากใยอาหาร 2.2 g น้ำตาล 0.4 g โปรตีน 2.9 g วิตามินเอ1 88% วิตามินซี 47% แคลเซียม10% ธาตุเหล็ก 15% วิตามินบี 6 10% แมกนีเซียม 20% ไทอามิน 5% ไรโบพลาวิน 11% ไนอาซิน 4% วิตามินอี 7% วิตามินเค 4% ซิงค์4% ฟอสฟอรัส5%
ประโยชน์ผักโขม
- มีสารซาโปนิน (Saponin) สรรพคุณช่วยลดคอเรสเตอรอล ทำให้ไขมันในเลือดลดลง บำรุงเลือด ช่วยกำจัดสารพิษในร่างกาย ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ต่างๆ
- มีเบต้าแคโรทีน สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งโดยเฉพาะ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม
- มีวิตามินเอสูง ช่วยบำรุงสายตา ได้ดี
- มีวิตามินซีสูง ช่วยบำรุงผิว และรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน
- มีเส้นใยอาหารมาก ช่วยเรื่องการขับถ่าย ลดเกิดมะเร็งในกระเพาะอาหาร
สรรพคุณและรสในตำรายา
ทั้งต้น รสขมเฝื่อนเย็น ขับปัสสาวะ แก้ตกเลือด แน่นท้อง ขับน้ำนม ใช้ต้นแห้งหรือต้นสดต้มเอาน้ำดื่มแก้อาการเจ็บคอ แก้บิดถ่ายเป็นเลือด นิ่วในถุงน้ำดี ใช้ภายนอกโขลกพอกหรือชะล้างหรือเผาเป็นเถ้าหรือเป็นผงโรย ฝี แผลงูกัด บวม อักเสบ แก้ลมพิษ
ราก รสเฝื่อนเย็น แก้ช้ำใน แก้ไข้ ระงับความร้อน แก้เด็กลิ้นเป็นฝ้าละออง เผาไฟพอดำจี้หัวฝีให้แตก แก้ตกเลือด ขับน้ำนม แก้เบื่ออาหาร ใช้ภายนอกแก้ฝี แก้กลาก
วิธีและปริมาณที่ใช้
- ขับปัสสาวะ แก้บิดถ่ายเป็นเลือด แก้เจ็บคอ โดยใช้ทั้งต้น 1 กำมือหรือประมาณ 50 กรัม นำมาต้มในน้ำ 500 ซีซี แล้วกรองเอาน้ำดื่ม เช้า-เย็น
- รักษาแผลพุพอง โดยใช้ใบสด 10-15 กรัม นำมาโขลกให้ละเอียดใช้ทาและพอกบริเวณที่เป็น
ข้อควรระวังในการบริโภค
จากการวิจัยพบว่า ผักโขมทำให้ร่างกายมีปริมาณของสารออกซาเลท หรือกรดออกซาลิคสูง อาจเป็นสาเหตุเบื้องต้นของการเกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ดังนั้น การบริโภคต้องในปริมาณที่เหมาะสม ห้ามกินดิบๆ ต้องทำให้สุกเพื่อฆ่าสารตัวนี้ หรือกินร่วมกับผักที่มีรสเปรี้ยว เช่น มะเขือเทศ จะทำให้ร่างกายเรารับเอาธาตุเหล็กได้ดีกว่า
แหล่งที่มา : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), ไทยสมุนไพร.net, วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี