ในเขตเทศบาลตำบลโพตลาดแก้ว อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี นับเป็นแหล่งผลิตข้าวหลามรสชาติอร่อยและขึ้นชื่อที่สุดของ จ.ลพบุรี มายาวนาน จนได้รับการคัดสรรให้เป็นสินค้าโอท็อปของ ต.โพตลาดแก้ว มีแม่ค้าพ่อค้าประกอบอาชีพทำข้าวหลามขายนับสิบๆ ราย ซึ่งล้วนแต่ได้รับสูตรมาจากแหล่งเดียวกัน

         ข้ามหลามถือเป็นอาหารหรือขนมพื้นบ้านมาตั้งแต่สมัยโบร่ำโบราณ และยิ่งเศรษฐกิจไม่ดีอย่างนี้ ข้าวหลามเพียง 1-2 กระบอก ก็สามารถแบ่งปันกินกันได้ทั้งบ้านทำให้ข้าวหลาม อยู่คู่กับคนไทยมาตลอดนานแสนาน

         ลัดดาวัลย์ สิงหล แม่ค้าข้าวหลามในโพตลาดแก้ว วัย 50 ปีก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ยึดอาชีพเผาข้าวหลามขายมานานแล้ว เธอบอกว่า เป็นอาชีพที่รับช่วงมาจากครอบครัว คือคุณพ่อคุณแม่ที่ยึดทำเลริมถนนเลี่ยงเมืองสาย 311 (เลี่ยงเมืองลพบุรี-สิงห์บุรี) เป็นอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัวมาตลอด ปัจจุบันต้นทุนแพงขึ้นทุกอย่าง ทั้งข้าวเหนียว น้ำตาล มะพร้าว และลำไม้ไผ่ แต่ก็ต้องขายเพราะเป็นอาชีพหลัก

         "แต่ก่อน มะพร้าวที่เราเคยซื้อลูกละ 5-10 บาท พอปัจจุบันต้องควักทุนเพิ่มเป็นลูกละ 25-30 บาท ที่เป็นมะพร้าวห้าว เพื่อเอาขูดคั้นเป็นกะทิ ไม้ไผ่เคยซื้อลำละกว่า 10 บาท ปัจจุบันลำละ 26 บาท แม้แต่ข้าวเหนียวและน้ำตาลขึ้นเช่นกัน แต่เราก็ยังขายข้าวหลามในราคาเดิม เพราะไม่ต้องการซ้ำเติมผู้บริโภค ทุกวันนี้ก็ขายดีเหมือนเดิมในแต่ละวันจะขายได้ประมาณวันละ 700-800 กระบอก ลงทุนไปวันละเกือบ 5,000 บาท ใช้เวลาในการเผานานประมาณ 2 ชั่วโมง ได้กำไรวันละ 700-800 บาท" ลัดดาวัลย์ กล่าว

         ด้าน มานพ ทองชื้น อายุ 45 ปีน้องชายลัดดาวัลย์ที่ไปช่วยพี่สาวปลอกข้าวหลาม และปอกเปลือกไม้ไผ่ บอกว่า ถนนเลี่ยงเมืองลพบุรีในช่วงนี้ไม่ค่อยมีรถผ่านเท่าไรนักไม่เหมือนในช่วงเทศกาล ข้าวหลามโพตลาดแก้วจะขายดีกว่านี้ เพราะจะมีรถเล็ก รถใหญ่ แวะซื้อกัน เนื่องจากข้าวหลามในโพตลาดแก้วขายราคาถูกกระบอกละ 10-20 บาท แต่ปัจจุบันขึ้นมาเป็นกระบอกละ 10 หรือ 2 กระบอก 25 บาท

         นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ประกอบอาชีพ ที่ไม่ได้รับการเหลียวแลจากหน่วยงานของรัฐต้องพึ่งตนเองเพื่อให้ครอบครัวอยู่ได้

         เรื่อง/ภาพ : สรศักดิ์ ทับทิมพราย - น.ส.นภาภัทร ทับทิมพราย