"ขนุน"ไม้ผลธรรมดา...ทำรายได้ทั้งปี!

 

 

       คนไทยโบราณเชื่อว่าขนุนเป็นไม้มงคล หากปลูกไว้ในบริเวณบ้านจะมีคนเกื้อหนุนจุนเจือ อีกทั้ง เป็นไม้ยืนต้น ปลูกง่าย ให้ผลผลิตเร็ว เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทั้งปี ปลูกได้ทุกสภาพพื้นที่ ทำให้เป็นไม้ผลที่เกษตรกรนิยมปลูกทั้งกินเองและส่งขาย สร้างรายได้อย่างมั่นคง 

         ชูชาติ ยางนอก เกษตรกรชาว อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ปลูกพันธุ์ทองประเสริฐส่งออกต่างประเทศมากว่า 15 ปี โดยก่อนเปลี่ยนมาปลูกขนุนเขาทำไร่มันสำปะหลัง แต่ประสบปัญหาเรื่องราคาขึ้นลงไม่แน่นอน กว่าจะได้เก็บเกี่ยวผลผลิตต้องรอนานเป็นปี จึงมองหาช่องทางปลูกพืชชนิดอื่นที่สร้างรายได้ให้ทุกเดือน กระทั่ง มีโอกาสได้เดินทางไปศึกษาดูงานสวนขนุนส่งออกแห่งหนึ่งที่ จ.ระยอง จึงขอคำแนะนำเรื่องการตลาด ทำให้เห็นช่องทาง จึงตัดสินใจเปลี่ยนพื้นที่ปลูกมันฯมาปลูกขนุนแทน

 

ชูชาติ ยางนอก

         “การเปลี่ยนมาปลูกขนุนถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุน ผลผลิตจะเก็บเกี่ยวได้เมื่อปลูกเข้าสู่ปีที่ 3 เริ่มให้ผลผลิตเต็มที่ช่วงปีที่ 5 จากนั้นจะมีผลผลิตให้เก็บขายได้ทั้งปี ส่วนตลาดแนวโน้มดี เป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ ทำให้มีรายได้ทั้งเดือนแน่นอน ต่างกับการปลูกมันฯ ที่ต้องลงทุนพอๆกัน แต่กว่าจะได้เก็บเกี่ยวต้องรอถึง 1 ปี บางปีราคาต่ำไม่คุ้มการลงทุน” 

           พื้นที่กว่า 16 ไร่ ชูชาติเน้นปลูกขนุนพันธุ์ทองประเสริฐ เพราะติดลูกดก เนื้อเยอะ หากผลสมบูรณ์จะแกะเนื้อได้ถึงร้อยละ 50 ของน้ำหนักผล รสชาติหวาน เนื้อนุ่มกรอบ เป็นพันธุ์ที่เหมาะปลูกเพื่อการส่งออก ได้รับความนิยมจากตลาดในประเทศจีน และกัมพูชามากกว่าพันธุ์อื่นๆ อีกทั้ง เหมาะกับการขนส่งที่ต้องใช้เวลาหลายวัน ซึ่งเนื้อขนุนจะยังแข็งกรอบ ต่างจากพันธุ์อื่นๆที่เนื้อจะเละระหว่างการขนส่ง

 

 

           การปลูกขนุนพันธุ์ทองประเสริฐนั้น ชูชาติแนะนำให้มีระยะห่าง 7 คูณ 7 เมตร ขุดหลุมปลูกลึก 50 เซนติเมตร จากนั้นพรวนดินในหลุมให้ร่วน ใส่ปุ๋ยคอกรองพื้นแล้วจึงนำต้นพันธุ์ปลูก กลบดินให้เป็นเนินสูงจะช่วยการเกาะยึดของรากได้ดี หากเกิดพายุโคนต้นไม่ล้ม 

           ให้น้ำด้วยระบบสปริงเกอร์ 3 วันต่อ 1 ครั้ง ส่วนการดูแลให้ปุ๋ยสูตรเสมอและปุ๋ยคอก น้ำจุลินทรีย์รดรอบต้น หมั่นถางหญ้ารอบโคนต้นขนุน ไม่ควรใช้ยาฆ่าหญ้า เพราะทำให้ต้นขนุนหยุดการเจริญเติบโต ในระยะ 2-3 ปี ขนุนเริ่มให้ผลผลิต เมื่อเข้าสู่ปีที่ 5 จะให้ผลผลิตเต็มที่   และให้ผลผลิตต่อเนื่องยาวนานถึง 25 ปี ระยะเวลาการติดผลเริ่มตั้งแต่ออกดอกถึงดอกบาน 20-25 วัน ผลเริ่มแก่เมื่ออายุ 120-150 วัน ฤดูกาลเก็บเกี่ยวเริ่มตั้งแต่มกราคม ถึงพฤษภาคม จากนั้นขนุนจะพักต้น 2 เดือนแล้วจะให้ผลผลิตเก็บเกี่ยวได้อีก 

 

 

           ชูชาติ เสริมว่า ขนุนที่ให้ผลผลิตเต็มที่จะติดลูกกว่า 100 ลูกต่อต้น เพื่อนเกษตรกรจึงต้องหมั่นตัดแต่งไม่ให้ลูกเยอะเกินไป ใน 1 ต้นจะเลือกขนุนที่สมบูรณ์ที่สุดไว้ราว 15 ลูกเท่านั้น ส่วนลูกที่ไม่ได้ขนาดจะตัดขายเป็นขนุนอ่อนส่งไปยังตลาดทางภาคเหนือและภาคอีสานที่นิยมนำไปทำเป็นอาหาร ซึ่งจะมีราคาขายหน้าสวนตั้งแต่ 1-7 บาท ขณะที่ขนุนส่งออกไปขายที่ประเทศจีนและกัมพูชาจะคัดเลือกผลใหญ่ที่มีน้ำหนัก 10 กิโลกรัมขึ้นไป ส่วนตลาดในประเทศไทยจะส่งขายที่ตลาดไท น้ำหนักตั้งแต่ 7-10 กิโลกรัม จะมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อถึงสวน ในราคากิโลกรัมละ  18-20 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรพอใจ

         “ถือว่าตลาดส่งออกยังต้องการขนุนเป็นจำนวนมาก ได้ราคาดี คุ้มกับการลงทุน ช่วงที่ขนุนให้ผลผลิตมากจะเก็บได้อาทิตย์กว่า 10 ตัน  ช่วงผลผลิตน้อยเก็บได้ครั้งละ 400-500 กิโลกรัม เฉลี่ยรายได้ตั้งแต่ 20,000 บาท จนถึงหลักแสน นอกจากนี้ ในพื้นที่ยังปลูกพืชหมุนเวียน ผสมผสานหลายอย่าง เก็บขายสร้างรายได้ตลอดทั้งปีเช่นกัน”

 

 

 

          นอกจากชูชาติแล้ว ปัจจุบันยังมีเกษตรกร อ.ครบุรี ได้หันมาปลูกขนุนส่งออกกันทั้งนั้น เพราะมีตลาดที่แน่นอน ต่อเนื่องและไม่จำกัดจำนวน จนมีการตั้งกลุ่มเปิดเป็นโรงรับซื้อขนุนในชุมชน เป็นจุดศูนย์กลางในการรับซื้อของพ่อค้าคนกลาง จึงสะดวกทั้งกับเกษตรกรและผู้ซื้อ 

         ท่านที่สนใจเรื่องการปลูกขนุน รวมถึงสอบถามเรื่องตลาดส่งออก อยากหาซื้อผลผลิตไปพบเขาได้ที่ 62 หมู่ 6 ต.สระว่านพญา อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา หรือโทรศัพท์สอบถามที่ 088-362-2783 ครับ!