ผู้ว่าปทุมฯ สั่งพร่องน้ำในคลองต่อเนื่อง

         สภาพอากาศของประเทศไทยในระยะนี้ยังคงมีฝนมาก โดยการคาดหมายของ กรมอุตุนิยมวิทยา ช่วงวันที่ 20-23 ก.ค. ประเทศไทยยังคงมีฝนตกและมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 24-25 ก.ค. ประเทศไทยยังคงมีฝนตกและมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 20-23 ก.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากฝนตกสะสมที่ทำให้เกิดน้ำท่วมขังไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

         ขณะเดียวกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมพร้อมรับน้ำเหนือที่จะไหลมาสู่ภาคกลางโดยเฉพาะกรุงเทพและปริมณฑล โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ก.ค. นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี สั่งการให้ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ประสานการปฏิบัติกับ ผอ.ชป.ทุกหน่วยในพื้นที่ เปิดบานประตูระบายน้ำ 8 บาน เดินเครื่องสูบน้ำ 26 เครื่อง และเปิดบานประตูระบายน้ำ เพื่อไม่ให้ท่วมในพื้นที่, ไม่ให้ไหลเข้ากรุงเทพมหานคร และรองรับการแบ่งน้ำจากกรุงเทพมหานคร

         สำหรับการระบายน้ำตามจุดต่างๆเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น คลองรังสิต ฝั่งตะวันตก ระบายลงแม่น้ำเจ้าพระยา ลดลงเหลือ 2.61 ล้าน ลบ.ม., คลองเปรมประชากร ฝั่งใต้ สูบแบ่งน้ำจากฝั่งดอนเมือง กทม. ระบายลงคลองรังสิต เพิ่มขึ้นเป็น 0.04 ล้าน ลบ.ม., คลองหกวาสายล่าง รับน้ำที่ไม่สามารถไหลเข้ากทม.ได้ (ฝั่งสายไหม, คลองสามวา, หนองจอก กทม.) ผันไปทางตะวันออก ระบายเท่าเดิมที่ 0.78 ล้าน ลบ.ม., ระบบสูบริม 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ลดลงเหลือ 2.01 ล้าน ลบ.ม. และคลองระพีพัฒน์แยกใต้ (คลองสิบสาม) ระบายผ่านคลองรังสิตฝั่งตะวันออกและคลองหกวาสายล่าง ผันไปทางตะวันออก ผ่านแม่น้ำนครนายก, บางปะกง ลงสู่อ่าวไทย ลดลงเหลือ 1.49 ล้าน ลบ.ม. รวมน้ำที่พร่องได้เมื่อวานนี้ 6.92 ล้าน ลบ.ม. (ลดลง) ช่วยระบายน้ำให้ กทม. 0.82 ล้าน ลบ.ม. โดยจะบริหารการพร่องน้ำต่อเนื่องให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและปลอดภัย

         อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีได้มอบหมายและกำชับให้หน่วยงานในพื้นที่ ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างทันที ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและข้อสั่งการของกระทรวงมหาดไทย