ประมงเร่งแก้"ปลานิล"ล้นตลาด!

 

 

 

พะเยา - กรมประมงแก้ปัญหาปลานิลล้นตลาดจังหวัดพะเยา ให้กลุ่มเกษตรรวม 1 แสนกว่ากิโล สร้างรายได้สะพัดกว่า 5 ล้านบาท ทั้งเตรียมหาแนวทางเพิ่มช่องทางการจำหน่ายระยะยาว แนะเกษตรกรแก้ปัญหายั่งยืนด้วยการรวมกลุ่มแปลงใหญ่ นำร่องสัตว์น้ำ 5 ได้แก่ ปลานิล กุ้งก้ามกราม กุ้งทะเล ปลายี่สกเทศ และปลาตะเพียนขาว

         นายมีศีกดิ์ ภักดีคง รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า กรมประมงได้ดำเนินโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ด้านประมง โดยจะเน้นการดำเนินการงานในลักษณะการรวมกลุ่มของเกษตร กรรายย่อยหลายๆรายให้มาร่วมกันพัฒนาปรสิทธิภาพการผลิต โดยมุ่งผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐาน ลดต้นทุน และร่วมบริหารจัดการด้านการตลาด

 

          สำหรับโครงการเกษตรแปลงใหญ่ด้านประมง กรมประมงได้นำร่องสัตว์น้ำ 5 ชนิด ได้แก่ ปลานิล กุ้งก้ามกราม กุ้งทะเล ปลายี่สกเทศ ปลาตะเพียนขาว โดยในปี 2560 ได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายของเกษตรแปลงใหญ่ เพิ่มเติมซึ่งจะเน้นดำเนินการในพื้นที่ต่างๆ เช่น พื้นที่ในเขตชลประทาน พื้นที่ปฏิรูปที่ดิน พื้นที่ในเขตสหกรณ์นิคม และพื้นที่เกษตรทั่วไปโดยมีเจ้าหน้าที่กรมประมงร่วมเป็น ผู้จัดการแปลงมีหน้าที่ประสาน สนับสนุน อำนวยความสะดวกในการพัฒนาสมาชิกในแปลงใหญ่มาร่วมกำหนดเป้าหมายการผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทุกขั้นตอนจนถึงการเชื่อมโยงตลาดกับภาคเอกชนแบบประชารัฐเพื่อให้เกษตรกรมีความมั่นคงในอาชีพการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ

 

 

 

          ทั้งนี้ การรวมกลุ่มแปลงใหญ่นอกจากจะเป็นผลดีกับตัวเกษตรกรเองแล้ว กรณีเกษตรกรประสบปัญหาต่างๆ เจ้าหน้าที่ของรัฐก็ยังได้เข้าไปร่วมแก้ไขปัญหาให้เกษตรได้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้นด้วยการบูรณาการทุกภาคส่วนตลอดห่วงโซ่อุปทาน ยกตัวอย่างเช่น การแก้ปัญหาปลานิลล้นตลาดของกลุ่มสหกรณ์เลี้ยงปลาบ้านต๋ำ เมืองพะเยา จำกัด สืบเนื่องจากปัญหาภัยแล้งในปี 2557– 2558 ทำให้ผลผลิตปลานิลออกสู่ตลาดน้อย ต่อมาเมื่อเข้าฤดูฝนปี 59 เกษตรกรหันมาปล่อยปลานิลกันอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผลผลิตออกสู่ตลาดพร้อมกันเฉลี่ยประมาณ 6,700 – 8,000 กก./วัน ซึ่งเกินปริมาณที่ตลาดจะรองรับได้ จึงส่งผลให้เกิดภาวะผลผลิตปลาล้นตลาดและราคาจำหน่ายปลานิลลดลงพร้อมกัน ราคาจะลดลงจากกิโลกรัมละ 60 –70 บาท เหลือประมาณกิโลกรัมละ 40-50 บาท

 

 

          จากปัญหานี้ทางกรมประมงได้มีการจัดประชุมหน่วงงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน โดยระยะสั้นได้มีแผนจัดเทศกาลต่างๆ อาทิ งานกินปลานิลพะเยา งานกินปลาเผาเล่นสงกรานต์กว้านพะเยา รวมถึงการขอพื้นที่ให้เกษตรกรได้จำหน่ายผลผลิตโดยตรงให้แก่ผู้บริโภค ตามสถานที่ต่างๆ เช่น มนฑลทหารบกที่32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี องค์การบริหารส่วนจังหวัด สภาอุตสาหกรรมและห้างสรรพสินค้า เป็นต้น อีกทั้งยังมีการนำผลผลิตไปจำหน่ายจังหวัดใกล้เคียง เช่น จ.แพร่ และน่าน ทำให้ปัญหาปลานิลล้นตลาดใน จ.พะเยาได้คลี่คลายลง สามารถช่วยกลุ่มเกษตรกรขายปลานิลได้ 120,992 กก. เป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 5,297,343 บาท

 

          สำหรับแผนในระยะยาวทางกรมได้เตรียมรับกับปัญหาสินค้าสัตว์น้ำล้นตลาดไว้หลายช่องทาง อาทิ เพิ่มช่องทางการตลาดให้หลากหลายมากขึ้น วางแผนจัดการด้านตลาดร่วมกันเพื่อป้องกันผลผลิตล้นตลาด 

 

 

          นายมีศักดิ์ ภักดีคง รองอธิบดีกรมประมง กล่าวในตอนท้ายว่า ขอเชิญชวนเกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิลและสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ ทั่วประเทศ ให้หันมารวมตัวกันเป็นกลุ่มเกษตรกรด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เพื่อร่วมกันพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตปลานิลและวางแผนจัดการด้านการตลาดร่วมกันระหว่างกลุ่มเกษตรกรเพื่อป้องกันผลผลิตล้นตลาด โดยดำเนินการในรูปแบบโครงการแปลงใหญ่ฯ ของกรมประมง ซึ่งเชื่อได้ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาปลานิลล้นตลาดในระยะยาว ต่อไป