ลด"นอนกรน"ด้วยสมุนไพรใกล้ตัว!

 

 

าการนอนไม่หลับว่าลำบากแล้ว หากมาเจอคนนอนข้างๆนอนกรนอีกคงยิ่งรำคาญเข้าไปใหญ่ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะมีวิธีช่วยลดอาการนี้หลากหลายวิธี หนึ่งนั้นวิธีง่ายๆไม่ต้องใช้จ่ายอะไรเลย นั่นคือใช้สมุนไพรใกล้ๆตัวเรา 

          พริกขี้หนู รสเผ็ดของพริกจะช่วยให้ทางเดินหายใจโล่ง และเกิดความชุ่มชื่นในลำคอ สารแคปไซซินช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อรอบหลอดลม พริกจึงมีประโยชน์ต่อคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบหายใจ

          หอมแดงแก่จัด นอกจากจะมีสรรพคุณแก้หวัด คัดจมูก ลดไขมันอุดตันในหลอดเลือดแล้ว กลิ่นฉุนของหอมแดงยังช่วยให้เกิดความชุ่มชื้นในลำคอ และช่วยให้ระบบหายใจทำงานได้ดีขึ้น จะเอามาดม หรือประกอบอาหารก็ได้

          ใบแมงลัก มีฤทธิ์แก้หวัด และหลอดลมอักเสบ นำใบไปประกอบอาหาร จะช่วยให้ระบบหายใจทำงานดีขึ้น และ

          ขิง ใช้เหง้าขิงแก่สดขนาดเท่าหัวแม่มือ หรือราว 5 กรัม ทุบให้แตก ต้มเอาน้ำดื่ม จะช่วยให้สดชื่น ระบบทางเดินหายใจทำงานสะดวกขึ้น

 

 

ขั้นตอน-วิธีปรุง

           - พริกขี้หนู 5-7 เม็ด ล้างน้ำให้สะอาด ทุบพอแหลก

           - หอมแดงปอกเปลือก 4-5 หัว ล้างน้ำให้สะอาด ทุบนิดหน่อย

           - ใบแมงลัก 1 กำมือ และ

           - ขิง ยาวราว 10 ชม.ทุบนิดหน่อยเช่นกัน

          ทั้งนี้ นำสมุนไพรทั้งหมดที่กล่าวใส่หม้อ ใส่น้ำพอท่วมหลังมือ ขึ้นตั้งไฟรอเดือดสักพุ่ง จึงยกลงวางไว้พออุ่น ดื่มก่อนนอนทุกวัน อาการนอนกรนจะค่อยๆเบาลง ใช้เวลากับปฏิบัติการนี้สักระยะ อาการกรนของคุณถึงขั้นหายไปเลย

 

 

การป้องกัน

          - ไม่ควรกินอาหารก่อนนอน ควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารหนักช่วง 3 ชั่วโมงก่อนนอน ควรกินจำพวกซุปร้อนๆ หรือกล้วยน้ำว้า 1-2 ผล

          - หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือยาที่มีฤทธิ์ที่ทำให้ง่วงซึม โดยทั่วไปแล้วเมื่อเกิดภาวะขาดออกซิเจน สมองและกล้ามเนื้อต่างๆจะสั่งงานให้ร่างกายตื่นขึ้น แต่ถ้าหากถูกกดเอาไว้ด้วยสิ่งเหล่านี้ จะทำให้สมองตื่นช้า และอาจตอบสนองต่อภาวะขาดออกซิเจนไม่ทัน จนอาจเสียชีวิตได้

            -  ดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆ การนอนกรนส่วนหนึ่งเกิดขึ้นเพราะนอนหลับไม่สนิท ดังนั้น เพื่อการนอนหลับสนิทจนถึงเช้า ลองดื่มนม น้ำผึ้งผสมน้ำอุ่น หรือน้ำสมุนไพรอุ่นๆสักแก้ว จะช่วยลดปัญหาได้ และ

            - ต้องออกกำลังกาย ให้สม่ำเสมอ

 

 

          การกรน (Snoring) เกิดจากกล้ามเนื้อคอคลายตัวขณะหลับจนทำให้ช่องคอแคบลง ซึ่งส่งผลให้ต้องหายใจเข้าออกแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อทางเดินหายใจแคบลงจนถึงจุดหนึ่ง ความแรงของลมหายใจที่ยิ่งเพิ่มมากขึ้นจนเกิดการสั่นสะเทือนของเนื้อเยื่อภายในระบบทางเดินหายใจ ทำให้มีเสียงกรนตามมา อีกทั้ง การกรนยังเกิดจากหลายสาเหตุ อาทิ เกิดการปิดกั้นของระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเกิดจากการหย่อนตัวของกล้ามเนื้อภายในระบบทางเดินหายใจ เช่น ลิ้น ลิ้นไก่ เพดานอ่อน คอ หรืออาจเกิดจากสารหล่อลื่นในระบบทางเดินหายใจลดลง ทำให้เกิดอาการแห้ง และบวม ทางเดินหายใจจึงแคบลง เมื่อหายใจจึงเกิดเป็นเสียงกรน

            ผู้ชายมีอัตราการนอนกรนมากกว่าผู้หญิง โดยเฉพาะคนอ้วน ผู้สูงวัย ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ หรือโรคจมูกอักเสบ ผู้ที่ทำงานหักโหม หรือออกกำลังกายมากเกินไป รวมทั้ง การดื่มสุรา สูบบุหรี่จัด กินยานอนหลับ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้กรนได้

            ทั้งนี้ หากช่องคอแคบลงอีกเรื่อยๆ ก็จะส่งผลให้เกิดการอุดตันในช่องคอแบบชั่วคราว ทำให้ลมหายใจเข้าออกขาดหายไปชั่วขณะ กลายเป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่า การหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งหากใครมีอาการดังกล่าว ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ เพราะหากปล่อยเอาไว้อาจเป็นบ่อเกิดของโรคอื่นๆ ตามมา เช่น ความดันโลหิตสูง หัวใจขาดเลือด อัมพาต

ที่มา :  Page พระอาจารย์ นภดล อุ่นตา,รักษาอาการนอนกรน ด้วยสมุนไพรนิตยสารชีวจิต, bedtaledidea.blogspot.com