ปรับใหญ่"ยาสูบ"รับภารกิจโกอินเตอร์

 

 

โรงงานยาสูบเตรียมแปลงสภาพเป็นนิติบุคคลในนาม การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) เพิ่มความคล่องตัวทำธุรกิจ

          นางสาวดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้อำนวยการยาสูบ โรงงานยาสูบ กล่าวว่า ขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติการยาสูบแห่งประเทศไทย พ.ศ. ... ซึ่งได้กำหนดให้โรงงานยาสูบมีสถานะเป็นนิติบุคคลโดยเปลี่ยนชื่อเป็น การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกฤษฎีกา และเตรียมเสนอสภา สนช.พิจารณาในขั้นต่อไป คาดว่าร่างกฎหมายจะผ่านการพิจารณาของสภา สนช.ภายในสิ้นปีนี้ แต่ระหว่างการพิจารณากฎหมายขององค์กรต่างๆ โรงงานยาสูบ จึงเตรียมองค์กรรองรับภารกิจใหม่ ซึ่งสามารถดำเนินการได้มากขึ้น 

 

นางสาวดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์

          โดยหลังจากมีสภาพเป็นนิติบุคคล เพราะจะมีความคล่องตัวในการทำธุรกิจต่างๆ ได้มากขึ้น โรงงานยาสูบจึงได้ปรับองค์กรรองรับการผลิตยาสูบในรูปแบบรับจ้างผลิต (OEM)ให้กับลูกค้าหลายประเทศ จึงได้เจรจาร่วมกับเอกชนจีน เตรียมตั้งบริษัทลูก โดย ยสท.เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ด้วยทุนเกิน 5,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการร่วมลงทุนจะใช้แนวทางแบบบ PPP ลักษณะใด เพื่อผลิตบุหรี่สำหรับการส่งออก ไม่จำหน่ายในประเทศไทย แต่ต้องใช้ใบยาสูบของไทยร้อยละ 70 โดยโรงงานยาสูบดูแลรูปแบบการผลิตเมื่อตั้งโรงงานแห่งใหม่แล้วเสร็จ 

 

 

          นอกจากนี้ยังต้องพึ่งพาเกษตรกรชาวสวนใบยาสูบก็ต้องให้มีรายได้เพิ่มขึ้น จากความต้องการผลิตบุหรี่รองรับตลาดโลก เพื่อส่งออกใบยาเพิ่มเติม เบื้องต้นวางเป้าหมายผลิตส่งออกประมาณ รองรับความต้องการทั้ง จีน สิงคโปร์ เมียนมาร์ อินโดนิเซีย สปป.ลาว  ต้องการบุหรี่แบรนด์ไทย และการรับจ้างผลิต OEM มากกว่าพันล้านมวนต่อปี 

 

          โรงงานยาสูบยังอยู่ระหว่างการศึกษา เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกต้นกัญชง (HEMP) ชนิดพันธุ์ที่ใช้สำหรับการผลิตกระดาษมวนบุหรี่  รวมทั้งการนำไปใช้ผลิตก้นกรอง  และน้ำยาในเมล็ดของกัญชง สามารถใช้เป็นสารปรุงแต่งเพิ่มรสชาดบุหรี่ ต้นกัญชงยังใช้สำหรับการผลิตเสื้อผ้า สิ่งทอ อุตหสากรรมยายนต์ เพราะมีความคงทนอย่างมาก ด้วยคุณประโยชน์หลายๆ ด้าน ยังสามารถสกัดเป็นเครื่องสำอาง เพราะมีโอเมก้า 3,6,9 จำนวนมาก การนำเส้นใยมาผลิตเสื้อผ้ายังได้ราคาสูงเป็นที่ต้องการของตลาด คาดว่าจะเริ่มส่งเสริมการปลูกได้ในต้นปี 2562  

 

 

          อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกสายพันธุ์ของกันชง เพื่อมาสนับสนุนเกษตรกรปลูกในพื้นที่ต่างๆ เพื่อใช้รองรับภาระกิจของโรงงานยาสูบ เป็นพันธุ์ทั้งจากออสเตรเลีย จีน แคนนาดา สหรัฐ  รวมทั้งการศึกษาวิจัยการผลิตก้นกรองจากชานอ้อย ซังข้าวโพด และการใช้นวัตกรรมใหม่ผลิตเส้นยาพอง รองรับความต้องการของตลาด หากมีสภาพเป็นนิติบุคคลมีภาระกิจเพิ่มหลายด้านคาดว่ามีรายได้เพิ่มจากเดิมร้อยละ 30 เพื่อนำรายได้เข้าสู่คลังต่อไป