เปิดสายด่วนรับเรื่อง : รง.ไม่ซื้อข้าวโพด

 

 

 

พาณิชย์สั่งการพาณิชย์จังหวัดประสานโรงงานรับซื้อจากเกษตรกรทุกพื้นที่แล้ว พร้อมเปิดสายด่วน 1569 รับเรื่องร้องเรียนหากโรงงานไม่ช่วยเหลือ

น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั่วประเทศ หลังจากกลุ่มเจริญโภคภัณฑ์อาหาร (ซีพี) แหลมทอง และลีพัฒนา หยุดรับซื้อข้าวโพดจากเกษตรกรตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า เท่าที่ได้รับรายงานเวลานี้ปริมาณข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อยู่ในมือเกษตรกรไม่มาก หากเกษตรกรรายใดยังมีข้าวโพดสามารถนำไปขายให้กับโรงงานอาหารสัตว์ที่อยู่ในพื้นที่ของตนเองได้ โดยสั่งการให้พาณิชย์จังหวัดในเขตพื้นที่ที่มีโรงงานอาหารสัตว์ขอความร่วมมือให้ช่วยรับซื้อได้ทันทีอย่างน้อยจังหวัดละ 1 โรงงาน โดยโรงงานอาหารสัตว์ส่วนใหญ่ยินดีจะรับซื้อ หากพื้นที่ใดปฎิเสธการรับซื้อแบบไม่มีเหตุสามารถแจ้งให้พาณิชย์จังหวัดนั้นๆทราบ หรือร้องเรียนมายังกระทรวงพาณิชย์ หรือสายด่วน 1569 ของกรมการค้าภายในก็ได้

 

น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์

ทั้งนี้ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปีนี้ช่วงปลายฤดูราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 8.40-8.50 บาทต่อกิโลกรัม หากเป็นช่วงผลผลิตออกมากจะอยู่ที่ 8 บาทต่อกิโลกรัม ดังนั้น ปีนี้จึงไม่ค่อยมีปัญหาผลผลิตล้นตลาด ซึ่งแนวทางของรัฐบาลพยายามส่งเสริมให้เกษตรกรลดพื้นที่การเพาะปลูกและหันมาปลูกพืชส่วนผสมเพื่อลดปัญหาผลผลิตล้นตลาดและบางพื้นที่ได้ปฎิบัติตามแนวทางดังกล่าว ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรด้านต่าง ๆ รวมถึงการใช้แนวทางการรักษาคุณภาพสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐาน การหาตลาดและการเชื่อมโยงตลาดที่กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการมาแล้วอย่างต่อเนื่อง

 

 

ส่วนความคืบหน้าล่าสุด การเปิดประมูลข้าวเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนที่เปิดประมูลเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาจากจำนวน 2.2 ล้านตัน เสนอซื้อเข้ามามากกว่า 2 ล้านตัน ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการอนุระบายข้าวอนุมัติให้ขายข้าวในล็อตดังกล่าวแล้ว คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะนำเสนอพลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว หรือ นบข.เห็นชอบอนุมัติขายต่อไป

 

 

 

ทั้งนี้ จะทำให้สตอกข้าวเหลือประมาณ 800,000 ตันเท่านั้น แบ่งเป็นข้าวคุณภาพเพื่อการบริโภคในกลุ่ม 1 จำนวน  160,000 ตัน ที่จะนำมาประมูลครั้งที่ 3 เดือนกรกฎาคมนี้ และข้าวเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน อีกประมาณ 200,000 ตัน และข้าวเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ อีก 500,000 ตัน โดยจะครบเปิดประมูลทั้ง 3 รอบ ใน 3 กลุ่ม ซึ่งจะต้องดูตัวเลขปริมาณข้าวทั้ง 3 กลุ่มที่เหลือเท่าไหร่และนำเสนอให้ นบข.ทราบในช่วงการประชุมเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อจะได้แนวทางระบายข้าวแต่ละกลุ่มที่ชัดเจน