กกส. ลั่น "หนอนหัวดำ" เราเอาอยู่!!!

         กรมส่งเสริมการเกษตร แจงผลการดำเนินการป้องกันกำจัดหนอนหัวดำ ศัตรูสำคัญ ของมะพร้าว มั่นใจ ศัตรูมะพร้าว เราเอาอยู่ เป็นไปตามขั้นตอนการกำจัด โปร่งใส ตรวจสอบได้

         กรมส่งเสริมการเกษตร ตระหนักถึงสถานการณ์ความรุนแรงของหนอนหัวดำ จึงได้ดำเนินการป้องกันและกำจัดเพื่อควบคุมอย่างเข้มข้นมาโดยตลอด สำหรับปีนี้ช่วงที่ผ่านมา เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกันและกำจัดอย่างยั่งยืน และเป็นไปตามหลักการกำจัดหนอนหัวดำในมะพร้าว

         นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า พื้นที่ปลูกมะพร้าวของประเทศไทย มี 29 จังหวัด พื้นที่ 1,113,590 ไร่ พบการระบาดของหนอนหัวดำ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 จำนวน 109,409 ไร่ คิดเป็น 9% ที่เป็นจุดไข่แดงของการระบาดมาก โดยใช้มาตรการ 5 มาตรการ ได้แก่ มาตรการในการสร้างการรับรู้ และการมีส่วนร่วม มาตรการจัดการศัตรูพืชผสมผสาน มาตรการทางกฎหมาย มาตรการเฝ้าระวังและสำรวจ และมาตรการสร้างสวนใหม่และการปลูกพืชหลากหลาย ในพื้นที่ที่พบการระบาดมาก โดยกรมฯได้จัดสัปดาห์รณรงค์ถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อให้เกษตรกรเจ้าของสวน ตระหนักถึงความสำคัญและเข้าใจวิธีการป้องกันและกำจัดอย่างถูกต้องและเหมาะสม รวมทั้งให้ความร่วมมือกับหน่วยงานราชการในการสำรวจและกำจัดอย่างจริงจัง

         ทั้งนี้การกำจัดในระยะเร่งด่วน กรมฯได้ดำเนินการให้ความรู้เกษตรกรในการตัดทางใบมะพร้าวและเผาทำลาย เพื่อตัดวงจรการระบาดของหนอนหัวดำทำให้ลดและควบคุมการระบาดไปได้ในระดับหนึ่ง การผลิตแตนเบียน ศัตรูสำคัญของหนอนหัวดำมะพร้าว เป็นวิธีการควบคุมและกำจัดที่สำคัญ ซึ่งกรมฯ ได้ดำเนินการให้ ศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนทั่วประเทศ ผลิตและขยายพันธ์ ดำเนินการครบทุกพื้นที่แล้ว โดยดำเนินการปล่อยไปแล้ว 31.4 ล้านตัว ในอัตราไร่ละ 200 ตัว ต่อเนื่อง 8 เดือน จะสิ้นสุดในเดือนเมษายน 2561 รวมแตนเบียนที่จะปล่อยทั้งสิ้นราว 286 ล้านตัว พบว่าวิธีการทั้งสองเห็นผลดี เช่น ในพื้นที่ ศพก อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี

         ส่วนการดำเนินการในการซื้อสารเคมีฉีดเข้าลำต้น เพื่อทำลายให้สิ้นซาก ได้ปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัดด้วยการจ้างโดยวิธี e-biding ซึ่งเป็นไปตามแผนการกำจัดที่ร่วมกันระหว่างกรมส่งเสริมการเกษตรกับกรมวิชาการเกษตร ในขณะเดียวกัน ได้ดำเนินการรับสมัครและอบรมเกษตรกร เตรียมฉีดสารเข้าลำต้น เพื่อให้เกิดความเชี่ยวชาญ และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

         สำหรับการป้องกันอื่นๆ เช่น การดำเนินการสร้างสวนใหม่ทดแทนสวนเก่า กรมฯได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และกำชับเจ้าหน้าที่ดูแลเกษตรกรอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกษตรจัดการสวนให้ถูกต้อง หากพบการระบาด ให้แจ้งเจ้าหน้าที่เกษตรทันที หรือติดต่อ สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้านท่าน