เครือข่ายยางฯยื่น12ข้อแก้ราคาตกต่ำ


         เครือข่ายยางฯ 9 องค์กรเข้าพบรมว.เกษตรฯ "พลเอกฉัตรชัย" ลั่นหมดยุคประท้วงเรียกร้อง วอนนำปัญหาขึ้นโต๊ะหารือแก้ราคายาง ยันเร่งเจรจา 3 ประเทศสร้างตลาดยางจริง

         เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2560 ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานสภาเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย (สยยท.) พร้อมผู้แทนเกษตรกรชาวสวนยางจากเครือข่ายฯ 9 องค์กรประมาณ 40 คน ได้เข้าพบ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ

         พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ เปิดเผยภายหลังว่า การหารือร่วมกันครั้งนี้เป็นนิมิตหมายที่ดีที่จะทำงานร่วมกันระหว่างเกษตรกรชาวสวนยางและกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งนอกจากการเข้ามาแสดงความขอบคุณที่รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรฯ ได้เสนอกรอบแนวทาง 4 มาตรการแก้ไขปัญหายางที่คณะรัฐมนตรีได้มติอนุมัติแล้ว ยังได้ยื่นข้อเสนอ 12 มาตรการที่จะได้มีการหารือร่วมกันในรายละเอียดต่อไป โดยเฉพาะเรื่องการตลาดที่กระทรวงเกษตรฯ มีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลผลิตยางพารา และเพิ่มอำนาจต่อรองทางการค้ากับผู้ซื้อ ทั้งตลาดในประเทศ และตลาดกลางยางพารา 3 ประเทศ คือ ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ที่จะช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลผลิตยางพาราของชาวสวนยางซึ่งจะเป็นการซื้อขายยางแท้จริง ที่จะลดความผันผวนของราคายาง และที่สำคัญคือการส่งเสริมการใช้ยางในประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญและทุกหน่วยงานภาครัฐต้องผลักดันให้เกิดขึ้นโดยเตรียมงบประมาณในปี 2561 รองรับด้วย

         "การหารือครั้งนี้เกษตรกรชาวสวนยางเข้าใจตรงกันอย่างดีถึงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาของภาครัฐ ซึ่งเกษตรกรได้ฝากขอบคุณนายกรัฐมนตรี ข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ ทุกคนที่ตั้งใจทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่เกษตรกร พร้อมทั้งนำเสนอแนวทางในการหาทางออกร่วมกัน ซึ่งแบบนี้คือสิ่งที่ถูกในยุคนี้ การแก้ไขปัญหาร่วมกัน ดีกว่ารวมกลุ่มประท้วงไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา" พลเอกฉัตรชัย กล่าว

         สำหรับข้อเสนอ 12 มาตรการ ของ สยยท. ประกอบด้วย 1. ประเทศไทยมียางเป็นอันดับหนึ่งของโลก ที่ผ่านมาเราเดินตามหลังตลาดโลก และการขายยางล่วงหน้าเป็นอุปสรรคที่ราคายางไม่มีเสถียรภาพ (เพราะซื้อขายกระดาษเหมือนหุ้น ปั่นราคาได้) ประเทศเราควรจัดตลาดซื้อจริง ขายจริง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อเกษตรกรมากกว่า

         2. ตาม พ.ร.บ. กยท. มาตรา 8 วัตถุประสงค์ดำเนินการให้ระดับราคายางมีเสถียรภาพ โดย มาตรา 9 ให้ กยท. มีอำนาจทำกิจการต่างๆ (2) ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับยางพาราโดยการจัดตั้งบริษัทเพื่อชี้นำราคาในตลาดประมูลยางทุกแห่งเพื่อปกป้องเกษตรกรไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ซื้อที่กดราคา

         3. พ.ร.บ. ควบคุมยาง 2542 มาตรา 6 ในการส่งออกยาง (8) (9) (10) ต้องควบคุมผู้ส่งออกโดยไม่ให้ขายยางต่ำกว่าต้นทุนการผลิตของเกษตรที่ตกลงร่วมกันในไตรภาคี ถ้าไม่ปฏิบัติตามจะต้องถูกปรับตามราคายางที่ต่ำกว่าต้นทุนที่กำหนดไว้ และควรยึดใบอนุญาตใน มาตรา 10 วางหลักเกณฑ์การค้ายางภายในประเทศ และ มาตรา 48 ผู้ส่งออกยางจะต้องปฏิบัติตามมาตรา 10 กำจัดพวกปล่อยข่าวทำลายราคายางซึ่งเข้าข่ายทำลายความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ

         4. ขอให้รัฐบาลสนับสนุนเพิ่มมูลค่ายางเป็นผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมยาง โดยให้เกษตรกรรวมกลุ่มเพื่อให้ความรู้ สนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ และให้หน่วยราชการรับซื้อ (ด้านอุตสาหกรรม ควรให้แต้มต่อเหมือน BOI) ซึ่งเป็นการใช้วัตถุดิบภายในประเทศเป็นการลดปริมาณยาง

         5. ทาง สยยท. มีมติไม่เห็นด้วยกับการแทรกแซงยาง เพราะเก็บยางไว้จะเป็นภาระรัฐบาล ตามข้อ (2) กยท. ตั้งบริษัท และใช้เงินแทรกแซงมาสนับสนุนเกษตรกร รวมกลุ่มเกษตรกรให้ซื้อขายยางเป็นอาชีพเสริมเพื่อนำส่งบริษัท กยท. ที่จัดตั้งขึ้นและในสภาวะราคายางตกต่ำให้ทุกกลุ่มเก็บยางไว้ และทางรัฐบาลจะงดเก็บดอกเบี้ยจนกว่าราคายางจะปกติ

         6. ในการแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำ ควรแก้อย่างถาวร และวางมาตรการในการแก้ไขปัญหาจะต้องกำหนดหน่วยงานที่รับผิดชอบให้ชัดเจน

         7. ควรจะต้องมีกฎเกณฑ์ตามข้อตกลง บาหลีเร็กกูเลชั่น โดยมีตลาดร่วมทุน 3 ประเทศ เป็นตัวร่วมขับเคลื่อนไปพร้อมกันทุกประเทศ

         8. ควรกำหนดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรทั้ง 3 ประเทศ ร่วมกันเพื่อไม่ให้พ่อค้าและต่างประเทศส่งออกต่ำกว่าต้นทุนการผลิต ถ้าไม่เป็นไปตามข้อตกลง จะต้องมีมาตรการป้องกันที่ชัดเจน

         9. ยางที่ค้างอยู่ในสต๊อก 1.1 แสนตัน ควรนำออกมาขายให้ อบท. ใช้ผสมแอสฟร้านลาดถนน โดยการตั้งงบประมาณปี 2561 รองรับ

         10. สวนยางที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์และ กยท. ให้ขึ้นทะเบียนไว้เกือบ 2 ปีแล้วควรที่จะดำเนินการให้ถูกต้องเพราะแกษตรกรชาวสวนยางทุกคนได้เสียเงิน cess แต่เข้าไม่ถึง พ.ร.บ. กยท. มาตรา 49

         11. ปัญหา กยท.ซื้อปุ๋ยให้เกษตรกรได้รับเป็นปุ๋ยไม่ได้มาตรฐาน กยท. ควรจ่ายเป็นเงินสดให้เกษตรกรจัดหาเองเพราะอาจจะนำเงินไปทำปุ๋ยอินทรีย์ใช้เองตามนโยบายของรัฐบาลในรูปแบบเศรษฐกิจพอเพียง

         12. สภาเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง แห่งประเทศไทย (สยยท) ขอเป็นผู้รวบรวมปัญหาของเกษตรกรชาวสวนยาง และติดตามปัญหาภาพรวมของยางพาราอย่างเป็นระบบครบวงจรเพื่อนำเสนอ กระทรวงเกษตรฯโดยตรง

 

แหล่งที่มา : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์