เพาะต้นอ่อน”ผักกระชับ”ขายรายได้2-3แสน/ปี

 

       ด้วยสภาพพื้นที่ของ อ.แกลง จ.ระยอง ที่ติดชายฝั่งทะเล ขณะเดียวกันก็มีแม่น้ำประแสซึ่งมีต้นกำเนิดจากเทือกเขาชะเมาไหลผ่านพื้นที่หลายตำบล ก่อนจะไหลลงสู่ทะเลที่ปากน้ำประแส สภาพภูมินิเวศน์ชายฝั่งจึงประกอบไปด้วยพื้นที่น้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเค็ม ดังนั้นพื้นที่แถบนี้จึงทำนาปลูกข้าวได้ ผลพลอยได้จากการทำนาจะมีพืชชนิดหนึ่งที่ชาวบ้านเรียก กระชับ (ออกเสียงตามสำเนียงคนระยองว่า กระฉับ”) เกิดขึ้นในท้องนา 

 

 

          พจนานุกรมฉบับบัณฑิตยราชสถาน พ.ศ.2542 อธิบายว่า เป็นไม้ล้มลุกชนิด Xanthium strumarium L.ในวงศ์ Compositae เป็นวัชพืชในทุ่งนาและริมน้ำ ลําต้นและใบคาย ใบมนเว้า ขอบจัก โคนใบแหลม ดอกเล็กเป็นกระจุก ผลรียาว 1 เซนติเมตร มีหนามปลายงอทั่วทั้งผล รากหอมอ่อนๆใช้อบผ้าได้ บางส่วนใช้เป็นยาได้ แต่ทั้งต้นเป็นพิษต่อปศุสัตว์ บ้างเรียก ผักขี้ครอก (ราชบุรี) ผักขี้อ้น หญ้าผมยุ่ง (ภาคเหนือ)

 

 

          ผักกระชับนี้ชาวบ้านนิยมเอาต้นอ่อนมาใส่ในแกงส้ม กินกับน้ำพริก นำมาผัดหรือยำ ทำเป็นอาหารได้หลายอย่าง ต้นอ่อนจะคล้ายต้นอ่อนของทานตะวันและจัดเป็นพืชตระกูลเดียวกัน เมื่อก่อนไม่มีราคา ปัจจุบันมีการเพาะต้นอ่อนจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 120-150 บาท (ตามแต่ฤดูกาล) โดยเฉพาะที่หมู่ 6 บ้านทะเลน้อย ต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง มีชาวบ้านประกอบอาชีพนี้  13  ราย สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่าครัวเรือนละ 2-3 หมื่นบาท/เดือน

 

ประสาน ถวิล

 

         หนึ่งนั้นคือ ประสาน ถวิล เกษตรกรบ้านทะเลน้อย เล่าว่า ผักกระชับจะเกิดขึ้นในทุ่งนาหลังเกี่ยวข้าวแล้ว เมื่อเมล็ดแก่ก็จะร่วงลงในนาและงอกขึ้นมาเป็นต้นอ่อน ชาวบ้านจะถอนเอาไปทำอาหาร ซึ่งการเพาะต้นอ่อนขาย เกิดขึ้นเมื่อราว 20 ปีที่แล้ว โดยมีชาวบ้านนำเมล็ดไปลองเพาะเพื่อจะได้มีกินตลอดปี ไม่ต้องรอตามฤดูกาล จากนั้นจึงมีชาวบ้านรายอื่นๆทำตาม แต่ยังไม่ได้ทำเป็นอาชีพเพราะตลาดไม่กว้าง ยังไม่มีคนรู้จัก และเริ่มได้รับความนิยมเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมา เพราะกรอบอร่อย รสหวาน มีกลิ่นหอม เนื่องจากอยู่ในเขตน้ำกร่อย ผักเจริญเติบโตได้ดี แตกต่างจากภาคอื่นๆ ซึ่งมีรสค่อนข้างขม

 

เมนูยอดฮิต ยำทะเลผักกระชับ

 

        “ผมเริ่มเพาะขายเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตอนนี้มีบ่อแช่เมล็ด 10 บ่อ มีแปลงเพาะ 10 แปลง ใช้พื้นที่ว่างรอบบ้าน เริ่มแรกต้องเตรียมเมล็ดพันธุ์ เพื่อนำปลูกในนาช่วงพฤศจิกายน และจะเก็บเมล็ดแก่ช่วงกุมภาพันธ์ จากนั้นนำเมล็ดแก่มาตากแดดให้แห้ง แล้วเอาไปแช่น้ำในบ่อซีเมนต์นาน 70 วัน เพื่อให้เมล็ดพร้อมที่จะงอกก่อนเอาไปลงแปลงในที่ร่มใช้ดินร่วนแล้วกลบด้วยทราย รดน้ำพอให้ชื้น ใช้เวลา 8 วันต้นกล้าก็จะโตเต็มที่ ความสูง 6 นิ้ว ก็จะถอนต้นอ่อนเอาไปขายส่งในตลาด ช่วงนี้กิโลฯ ละ 120 บาท หากเป็นช่วงหน้าแล้งผักออกน้อยราคาขายส่ง 150 บาท วันหนึ่งๆจะขายได้ราว 7 กิโลกรัม และเก็บขายได้ตลอดทั้งปี ประสานเล่า และขยายความว่า อาชีพปลูกผักกระชับทำรายได้ให้ครอบครัวเดือนหนึ่งราว 3 หมื่นบาท โดยแปลงเพาะ 1 แปลงจะเก็บต้นอ่อนได้ราว 10  กิโลกรัม/วัน หากมีบ่อแช่เมล็ดหลายบ่อ มีแปลงเพาะหลายแปลง และมีเมล็ดพันธุ์สำรองก็จะทำให้เพาะกระชับขายได้ตลอดทั้งปี

 

ลักษณะต้นผักกระชับเมื่อโตเต็มที่

 

         ปัจจุบันผักกระชับเป็นที่ต้องการของตลาดในท้องถิ่น โดยเฉพาะร้านอาหารริมทะเล รีสอร์ทใน อ.แกลง ต่างสั่งไปทำเป็นเมนูเด็ด เช่น แกงส้มปลากะพงหรือกุ้งใส่ผักกระชับ ยำทะเลผักกระชับ ผักกระชับสดกินกับน้ำพริกกะปิและปลาทูทอด ผักกระชับผัดน้ำมันหอย ฯลฯ ทั้งนี้ นอกจากรสชาติของผักกระชับที่อร่อย หากินไม่ได้ทั่วไป แต่คำบอกเล่าแบบปากต่อปากในทำนองว่า จะช่วยให้อวัยวะบางส่วนของผู้หญิงกระชับเหมือนชื่อผักจึงทำให้กลายเป็นรายการอาหารที่ผู้มาเยือนเมืองแกลงไม่พลาดที่จะต้องลิ้มลอง

         อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี ซึ่งศึกษาเรื่องสมุนไพรพื้นบ้าน ระบุว่ายังไม่พบการรายงานว่าผักกระชับมีสรรพคุณตามคำบอกเล่าดังกล่าว ส่วนสรรพคุณดั้งเดิมนั้นชาวบ้านจะถอนทั้งรากมาต้มอาบเพื่อแก้พิษผื่นแพ้ ผิวหนังอักเสบ และเอามาต้มกินในกรณีไซนัสอักเสบ ทั้งยังแก้อาการปวดฟันได้ 

 

 

         ถึงแม้จะไม่มีสรรพคุณพิเศษดังว่า แต่ด้วยรสชาติหวาน กรอบ อร่อย ต้นอ่อนผักกระชับยังเป็นที่ต้องการของตลาดมาก ทั้งไม่มีคู่แข่ง เพราะเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่น้ำกร่อย หากเอาไปปลูกที่อื่นก็จะมีรสชาติขม ทั้งขั้นตอนตั้งแต่การเตรียมเมล็ดพันธุ์จนถึงถอนต้นอ่อนไปขายจะใช้เวลา 7 เดือน จึงทำให้ผักมีผลผลิตออกมาไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด แต่หากได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่าจะกลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญทำรายได้ให้ครัวเรือนหนึ่งไม่ต่ำกว่าปีละ 2-3 แสนบาทเลยทีเดียว!!