“เพกาเตี้ย”ทุนน้อย ปลูกง่าย รายได้ดี!

 


 

เพกาหรือ ลิ้นฟ้า ผักพื้นบ้านที่มีสรรพคุณเป็นยาและอาหาร ปัจจุบันเกษตรกรจำนวนมากนิยมปลูก หนึ่งนั้นคือ ประสาน คำมาตย์ แห่ง จ.มหาสารคาม เกษตรกรคนแรกๆที่นำผักชนิดนี้มาขยายขายกิ่งพันธุ์ จนสร้างรายได้หลายหมื่นบาทต่อเดือน

 

ประสาน เล่าว่า ปลูกเพกาเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา เริ่มจากต้นพันธุ์เพียง 1 ต้น เป็นพันธุ์เบาดอร์ พันธุ์พื้นเมืองของ สปป.ลาว กะจะปลูกไว้กิน แต่ด้วยต้นที่เตี้ยและให้ผลดก จึงมีแต่มีคนถามซื้อต้นพันธุ์ ความคิดเพาะกิ่งพันธุ์ขายจึงเกิดขึ้นในเวลาต่อมา

 

 

 

โดยเริ่มจากเขาใช้พื้นที่หลังบ้าน 200 ตารางวา ซื้อพันธุ์เบาดอร์ อายุ 1 ปี มาลง 50 ต้น ต่อเมื่อตลาดต้องการสูง จึงมีเกษตรกรสนใจปลูกเป็นจำนวนมาก เขาจึงได้ขยายพื้นที่เพาะต้นพันธุ์เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 3 ไร่ในปัจจุบัน และมีต้นพันธุ์นับหมื่นๆ ต้น

 

ลักษณะเด่นของพันธุ์นี้ คือ ต้นพันธุ์เตี้ยให้ผลผลิตเร็ว หากปลูกและดูแลให้น้ำให้ปุ๋ยสม่ำเสมอ เพียง 6 เดือนก็จะติดฝักให้เก็บขายได้ เมื่อเข้าปีที่ 2 จะให้ผลผลิตเต็มที่

 

ส่วนขั้นตอนการปลูกให้ขุดหลุมกว้างและลึก 50X50 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยคอกรองก้นหลุม การดูแลไม่ยุ่งยาก ทนแล้ง ศัตรูพืชน้อย ไม่ต้องฉีดยาฆ่าแมลง ก่อนออกดอกจะสลัดใบ เมื่อฝนตกจะแตกยอด
หากเกษตรกรวางแผนให้ออกฝักนอกฤดูเก็บเกี่ยวก็ทำได้ โดยรดน้ำให้ชุ่ม ใส่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก บำรุงต้น เพียงเท่านี้เพกาก็จะแทงช่อดอกตลอดทั้งปี

 

 

ปัจจุบันที่สวนของประสาน จะมีลูกค้าเข้าออกหาซื้อต้นพันธุ์ตลอด ทั้งซื้อไปปลูกจำหน่ายฝัก ปลูกเป็นไม้ประดับตามรีสอร์ทต่างๆ ซึ่งกำลังเป็นทีนิยมมาก ราคาต้นละ 40 บาท ทำให้ทุกวันนี้เขามีรายได้ 50,000 บาท จนถึงกว่า 100,000 บาท/เดือน 

 

ส่วนหนึ่งมาจากสรรพคุณทางยา ที่ช่วยชะลอความแก่ ต้านมะเร็ง บวกกับกระแสการบริโภคเพื่อสุขภาพ จึงมีคนหันกินฝักเพกากันมาขึ้น

 

 

ทั้งนี้ ฝักเพกาที่วางขายในบ้าเรา ส่วนใหญ่นำเข้าจาก สปป.ลาว ทว่าท่านใด สนใจกิ่งพันธุ์แวะสอบถามรายละเอียดกับประสาน คำมาตย์ ที่ 86 หมู่ 12 .หนองไฮ อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม โทรฯ 084-9545616