ข้าวโพดพันธุ์ใหม่สู้ภัยแล้ง-นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน งานวิจัย“ซินเจนทา”เพือเกษตรกร

      ระเทศไทยส่งออกข้าวโพดหวานเป็นอันดับ 1 ของโลก มูลค่าการส่งออกกว่า 7.9 พันล้านบาทต่อปี ไปยังตลาดหลักประเทศญี่ปุ่นและกลุ่มสหภาพยุโรป พื้นที่ปลูกรวม 7.5 ล้านไร่ เพื่อรักษาอันดับการส่งออกสินค้าเกษตรคุณภาพ และต่อสู้ปัญหาภัยแล้งที่กระทบภาคการเกษตร ซินเจนทา จึงได้จัดแสดงนวัตกรรมผลิตข้าวโพด หรือ Corn Expo เพื่อพัฒนาความรู้ทักษะการผลิตให้แก่เกษตรกรด้วยนวัตกรรม พร้อมช่วยเหลือเกษตรกรสู้ภัยแล้ง และสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

      นายพิชญา รุจิรวัฒน์ ผอ.ฝ่ายผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ ซินเจนทา ซีดส์ ประจำประเทศไทยและเวียดนาม เปิดเผยว่า พันธุ์ข้าวโพดนวัตกรรม  NK6848 พันธุ์ใหม่ล่าสุดของซินเจนทาที่ได้พัฒนาให้ทนกับสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งอย่างประเทศไทย หรือพันธุ์ทนแล้ง ซึ่งจากการปลูกในแปลงวิจัยพันธุ์นี้ให้ผลผลิตสูง 1,500-1,800 กก.ต่อไร่ และผลผลิตเพิ่มขึ้นจากการใช้เมล็ดพันธุ์ปกติ 3-5%  รวมทั้ง พัฒนาพันธุ์ที่มีความหลากหลายสอดคล้องกับสภาพพื้นที่ ฤดูกาล พฤติกรรมการปลูกของเกษตรกร อาทิ ข้าวโพดนวัตกรรม NK6253 ที่ระบบรากลำต้นแข็งแรง ฝักยาว ทนทานต่อโรค ใช้เครื่องจักรเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ข้าวโพดนวัตกรรม NK7328 ปลูกได้ในทุกสภาพพื้นที่ ทั้งดินเหนียว ดินร่วน ดินทราย ฝักใหญ่ได้น้ำหนัก หัวใจหลักของซินเจนทาคือให้ความสำคัญกับงานวิจัยและพัฒนา เพื่อให้ได้นวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่มาช่วยเหลือเกษตรกร และภาคการเกษตรของประเทศไทยอย่างยั่งยืน

       นางสาววัชรีภรณ์ พันธ์ภูมิพฤกษ์ ผอ.ฝ่ายความยั่งยืนทางธุรกิจ กล่าวว่า ซินเจนทา ได้ลงทุนวิจัยพัฒนานวัตกรรมการอารักขาพืชและเมล็ดพันธุ์ตามการเติบโตเชิงบวก เพื่อช่วยเกษตรกรต่อสู้กับสภาวะอากาศโลกที่เปลี่ยนแปลง มีวิธีใหม่ๆมาใช้ในระบบผลิต และในงาน Corn Expo นอกจากมีข้าวโพดพันธุ์ใหม่แล้ว ยังมีเทคโนโลยีเกษตรแบบแม่นยำสูง อาทิ เครื่องหยอดเมล็ดแบบลมดูด ที่มีผลต่อจำนวนต้นต่อไร่ คุณภาพผลผลิต โดรนพ่นปัจจัยการผลิตที่เหมาะกับขนาดต้น จุดที่ศัตรูพืชทำลาย ควบคุมการใช้น้ำ ลดใช้แรงงานคน ฯลฯ มีเกษตรกรร่วมงานกว่า 500 ราย ณ แปลงข้าวโพดบ้านหนองหญ้าอ่อน ต.ท่าหลวง อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี เมื่อปลาย มี.ค.ที่ผ่านมา

   ขอบคุณข้อมูล - ทีมประชาสัมพันธ์ ซินเจนทา ซีดส์