นบข.มติเพิ่มวงเงินโครงการประกันรายได้ข้าว ปี 63/64 อีก 3.8 พันลบ./ประกันภัยนาปี 64 ใช้เกณฑ์เดิม

      รุงเทพฯ 11 ก.พ.-นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลประชุมคณะกรรมการนโยบายบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 10 ก.พ.64 ณ ทำเนียบรัฐบาล ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมเป็นประธานว่า ที่ประชุมเห็นชอบปรับเพิ่มวงเงินงบประมาณโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 รอบที่ 1 อีก 3,838.92 ล้านบาท จากเดิม 46,807.35 ล้านบาท รวมเป็น 50,646.27 ล้านบาท โดยมอบหมายธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ก.พาณิชย์ จัดทำรายละเอียดและงบประมาณตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 และให้ ก.พาณิชย์ ในฐานะฝ่ายเลขานุการ นบข.นำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป

     นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปี 64 และมอบ หมาย ก.คลังนำเสนอ ครม.พิจารณาต่อไป โดยโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปี 64 ก.คลัง ธ.ก.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาแนวทางการดำเนินโครงการเช่น เดียวกับปี 59-63 โดยปรับปรุงรูปแบบอัตราค่าเบี้ยประกันภัยพื้นฐาน (Tier 1) ให้สอดคล้องกับอัตราส่วนความเสียหาย และปรับปรุงเป้าหมายการเอาประกันภัยพื้นฐาน (Tier 1) ให้ครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูกที่มีความเหมาะสมต่อการเพาะปลูกข้าวนาปีที่มีความเสี่ยงต่อภัยธรรมชาติต่ำ จำนวน 577 อำเภอ คิดเป็นพื้นที่เพาะปลูก 16 ล้านไร่

     อีกทั้ง นายกรัฐมนตรี ยังหารือถึงแนวทางการส่งออกข้าวไทยที่ลดลงเมื่อเปรียบ เทียบกับประเทศผู้ส่งออกสำคัญว่า ให้ดูปัจจัยที่ทำให้ราคาข้าวผกผันเพื่อแก้ปัญหาให้ถูกวิธี กำหนดกรอบข้าวแต่ละประเภทเพื่อไม่ให้ผลผลิตล้นตลาด ทั้งประเภทพันธุ์ ราคา สัดส่วนชนิดข้าวที่ผลิต ขณะที่ตลาดส่งออกข้าวทั้งทวิภาคีและการขายตรงไปแต่ละประเทศ ให้พิจารณาเพิ่มตลาดกลางในกลุ่มประเทศต่างๆ เพื่อเป็นศูนย์กระจายสินค้าในภูมิภาคอื่นๆ ส่วนปัญหาขาดแคลนตู้ขนส่งสินค้า ได้สั่งการทั้งกรมเจ้าท่า ก.คมนาคม ก.พาณิชย์ ก.คลัง ให้แก้ปัญหา ขณะนี้ปลดล็อกหลายอย่างแล้ว จึงขอให้ติดตามว่ามีจำนวนเพียงพอหรือไม่ โดยในส่วนของข้าวตลาดหลัก ข้าวตลาดเฉพาะในประเทศ ข้าวเพื่อสุขภาพ ข้าวอินทรีย์ ข้าวพื้นนุ่ม ต้องมีรายละเอียดที่ชัดเจน

      พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้ย้ำถึงผลผลิตข้าวไทยปี 64 ซึ่งมีแนวโน้มมากกว่าปี 63 ว่า ขอให้เป็นข้าวที่มีราคาที่แข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้ ฝากให้สมาคมผู้ส่งออกข้าวและสภาเกษตรกรร่วมขับเคลื่อนช่วยคิดเรื่องการปลูกข้าวให้ตรงกับตลาด ลดต้นทุนเพาะปลูก การปลูกข้าวพันธุ์ใหม่ให้สอดคล้องกับพื้นที่ น้ำ ความต้องการของผู้บริโภค และการค้าระหว่างประเทศด้วย 

      “รัฐบาลสนับสนุนภาคการเกษตรและช่วยเหลือเกษตรกรต่อเนื่อง ภายใต้มาตรการต่างๆ ทั้งการประกันรายได้ ลดต้นทุนผลิต บริหารจัดการการตลาดและประกันภัยสินค้าเกษตร เพื่อเป้าหมายคือยกระดับภาคการเกษตร เพิ่มคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้มีรายได้อย่างเพียงพอในการดำรงชีวิต เช่นเดียวกับการประกอบอาชีพอื่นๆ สำหรับภาระงบประมาณที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปีได้มอบหมายให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ ก.คลัง หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก.พาณิชย์ ก.เกษตรฯ ก.อุตสาหกรรม ก.อุดมศึกษาฯ วิจัยและนวัตกรรม หารือแนวทางปฏิรูป ขับเคลื่อนภาคการเกษตรเน้นสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรโดยตรงแทนตัวสินค้าเกษตร มีแนวทางพัฒนาอาชีพ โดยต้องมี Roadmap และ Action Plan ที่ชัดเจน” นายกฯ ย้ำในที่ประชุม