ครม.อนุมัติเพิ่มเงินประกันฯข้าว ปี 63/64 กว่า 2.8 หมื่นลบ. ย้ำเกษตรกรผู้มีสิทธิ์รับชดเชยแน่นอน (ชมคลิป)

    รุงเทพฯ 1 ธ.ค.-นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วันนี้ ( 1 ธ.ค.) ว่า จึงมีมติอนุมัติเพิ่มกรอบวงเงินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2563/64 รอบที่ 1 จำนวน 28,711.29 ล้านบาท เพื่อให้การจ่ายเงินชดเชยโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี63/64 เป็นไปอย่างครบถ้วนแก่เกษตรกรที่มีสิทธิ์ทุกราย  นับเป็นวงเงินอนุมัติเพิ่มเติมจากเดิมที่ ครม.อนุมัติเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 จำนวน 18,096.06 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 63/64 ใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น 46,807.35 ล้านบาท โดยวงเงินเพิ่มเติมที่ ครม.อนุมัติในวันนี้ แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ

    1) ค่าดำเนินการชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาประกันกับราคาเกณฑ์อ้างอิง โดยใช้แหล่งเงินทุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) วงเงินเพิ่มเติมจำนวน 28,078.44 ล้านบาท จากเดิม 17,676.54 ล้านบาท รวมเป็น 45,754.98 ล้านบาท

    2) ค่าใช้จ่ายในการชดเชยต้นทุนเงิน ธ.ก.ส.ในอัตราร้อยละ 2.25 วงเงินเพิ่มเติมจำนวน 631.76 ล้านบาท จากเดิม 397.72 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 1,029.48 ล้านบาท

    3) ค่าบริหารจัดการ ธ.ก.ส.วงเงินเพิ่มเติมจำนวน 1.09 ล้านบาท จากเดิม 21.8 ล้านบาท รวมเป็น 22.88 ล้านบาท

    ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ได้ดำเนินการจ่ายเงินชดเชย จนถึงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2563 โดยจ่ายเงินชดเชยให้เกษตรกรในงวดที่ 1 ครบถ้วนแล้ว และงวดที่ 2 บางส่วน สำหรับเกษตรกรที่ระบุวันคาดจะเก็บเกี่ยวถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2563 จำนวน 1,429,135 ครัวเรือน เป็นเงิน 15,260.55 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 86.3 ของวงเงินงบประมาณเงินชดเชยที่ ครม.เคยอนุมัติไว้เดิม อย่างไรก็ตาม ยังมีเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับเงินชดเชยตามสิทธิ์คือเกษตรกรที่ระบุวันคาดจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 15-29 พฤศจิกายน 2563 (งวดที่ 2 บางส่วน และงวดที่ 3-4) อีก 2,905,043 ครัวเรือน เป็นเงิน 26,605.61 ล้านบาท และเกษตร กรที่ระบุวันคาดจะเก็บเกี่ยวหลังวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 (งวดที่ 5-30) อีก 487,370 ครัวเรือน ผลผลิตรวม 2,894,905 ตัน คาดว่าจะใช้วงเงินงบประมาณ 3,888.82 ล้านบาท ซึ่งวงเงินชดเชยดังกล่าวอยู่ในกรอบวงเงินเพิ่มเติมที่ ครม.อนุมัติในวันนี้เรียบร้อยแล้ว จึงขอให้เกษตรกรมั่นใจว่า จะได้รับเงินส่วนต่างประกันรายได้ตามสิทธิ์อย่างแน่นอน

     นางสาวรัชดา กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีได้เร่งรัดการประชาสัมพันธ์และการดำเนินมาตรการคู่ขนานที่ควบคู่ไปกับโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี63/64 รวม 3 โครงการคือ 1)โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ระยะเวลาดำเนินการ 1 พ.ย.63-29 ก.พ.64 2)โครงการสินเชื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยสถาบันเกษตรกร ระยะเวลาดำเนินโครงการ 1 ต.ค.63-30 ก.ย.64 และ 3)โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อก ระยะเวลาดำเนินการ 1 พ.ย.63-31 มี.ค.64 ให้ผู้ประกอบการเก็บข้าวไว้ระยะเวลา 2-6 เดือน และจะได้รับชดเชยดอกเบี้ย 3% ซึ่งทั้ง 3 โครงการนี้จะดูดซับอุปทานในช่วงที่ข้าวเปลือกออกสู่ตลาดมาก เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก

     สำหรับโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีผลิต 63/64 เพื่อช่วยลดต้นทุนผลิตและกระตุ้นให้เกษตรกรดูแลรักษาข้าวให้มีคุณภาพดี ไร่ละ 500 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 10,000 บาทต่อครัวเรือน วันนี้ (1 ธันวาคม 2563) ธ.ก.ส.เริ่มจ่ายเกษตรกรงวดแรกแล้ว จำนวนกว่า 4 แสนครัวเรือน เป็นเงินกว่า 1,600 ล้านบาท

     อีกประการหนึ่งที่ นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำคือ การส่งเสริมพัฒนาพันธุ์ข้าวและการผลิตพันธุ์ข้าว ซึ่งวันนี้ ครม.ได้อนุมัติงบประมาณ 1,600 ล้านบาท เพื่อพัฒนาศักยภาพและปรับปรุงเครื่องจักรอุปกรณ์ ปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ของศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว กรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทุกศูนย์ทั่วประเทศ  

    ขอบคุณข้อมูล - สำนักข่าวไทย