ชาวหนองกระเบียน โอดน้ำนาปียังไม่มี ไม่หวังน้ำทำนาปรัง

         ชลประทานขอชาวนางดทำนาปรัง น้ำไม่พอฤดูแล้ง แต่หนองกระเบียนน้ำทำนาปียังไม่มีพอจะเลี้ยงต้นข้าวไม่หวังแม้แต่น้ำทำนาปรัง  
         รายงานข่าวแจ้งว่าจากการที่กรมชลประทานได้สั่งการให้สำนักชลประทานที่ 10 ดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรชาวนา ในพื้นที่ชลประทานของสำนักชลประทานที่ 10 ทราบว่าขอให้งดการทำนาต่อเนื่องหรือนาปรัง ภายหลังการเก็บเกี่ยวข้าวนาปีอย่างเด็ดขาดเนื่องจากมีน้ำต้นทุนใน 4 เขื่อนหลักคือ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์  เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีน้ำน้อย และเก็บไว้ใช้เป็นน้ำต้นทุนในฤดูแล้งที่จะถึง 
         ว่าที่ร.ต.ณรงค์ฤทธิ์ ทองดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพุคา และในฐานะประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำคลอง 17 ขวา  เผยว่าการที่ชลประทานออกมาขอให้งดทำนาปรัง หลังเก็บเกี่ยวข้าวนาปีแล้วชาวนาที่ใช้น้ำในคลอง 17ขวา ที่อยู่ในเขตชลประทานจะเก็บเกี่ยวข้าวในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม แต่ที่น่าเป็นห่วงเรื่องการใช้น้ำทำนาคือฝั่งซ้ายของคลองชลประทานชัยนาท-ป่าสัก จำนวน 9 ตำบลของอำเภอบ้านหมี่ได้แก่ตำบลพุคา หนองเมือง บ้านกล้วย บ้านทราย หินปัก บางกะพี้ ดงพลับ หนองทรายขาว หนองกระเบียน ที่อยู่นอกเขตชลประทานเริ่มเก็บเกี่ยวข้าวกันแล้ว ตอนนี้ก็ต้องหาทางเพาะปลูกพืชอย่างอื่นทดแทน


         "ตอนนี้กำลังหาปลูกพืชใช้น้ำน้อยกัน แต่ก็ต้องดูว่าปลูกพืชอย่างอื่นนั้นจะปลูกอะไร อย่างถั่วเขียวก็ไม่เหมาะกับดินบ้านเรา แต่ก็กำลังศึกษากันอยู่ ว่าจะให้ชาวบ้านทดลองปลูกเพราะใช้น้ำครั้งเดียว เนื่องจากตำบลไผ่ใหญ่เคยปลูกเคยประสบความสำเร็จ และกำลังประสานความรู้เพื่อมาศึกษา เพราะตำบลพุคา เคยปลูกแล้วไม่ประสบความสำเร็จ ชาวนาไม่น่าจะเปลี่ยนอาชีพแบบปุบปับ เว้นแต่จะมีคนกล้าที่จะทดลอง ส่วนเรื่องการงดทำนาปรังอาจจะทำเพื่อการระบายข้าวนาปี เพื่อดึงราคาข้าวให้เพิ่มขึ้นก็เป็นได้" นายกอบต.พุคาเล่า  
         นางถาวร เหลืองทอง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองเมือง เล่าว่า ในพื้นที่ตำบลหนองเมืองจะแบ่งออกเป็น 2 โซนคือพื้นที่ตอนล่าง ในส่วนของหมู่ที่ 1,2,3และ 6 จะเป็นพื้นที่ทำนาตลอด หากไม่มีน้ำส่งให้ทำนาก็จะพักพื้นที่นา และอีกส่วนโซนคือในพื้นที่หมู่ที่ 4, 5, 7 จะเป็นพื้นที่ทำนาปีละครั้งอยู่แล้ว ซึ่งหลังจากทำนาปี ชาวบ้านจะปลูกข้าวโพดถั่วเขียวและงากัน


         นายสมใจ อินทนิล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองกระเบียน เล่าว่า ในตำบลหนองกระเบียน หากงดทำนาปรัง ก็จะเดือดร้อนอย่างมาก ในตอนนี้นาปียังไม่มีน้ำที่พอจะเลี้ยงข้าวให้แล้ว แค่นาปี ปีละครั้งก็ไม่มีน้ำทำนา ยังคงต้องสูบน้ำมาเลี้ยงต้นข้าว โดยสูบน้ำจากบ้านสระใหญ่มาหนองแมบ ระยะทาง 8 กิโลเมตร ก็ยังไม่พอใช้ ซึ่งเป็นพื้นที่ประมาณกว่า10,000 ไร่ ที่น้ำก็ยังไม่เพียงพอ เนื่องจากน้ำบ่าจากฝนไม่มีมาสองปีแล้วเพราะฝนตกไม่หนักเพียงพอที่จะทำให้มีน้ำ ทำให้นาปีก็ไม่สามารถปลูกข้าวได้ดี แต่ยิ่งไม่ให้ทำนาปรังก็ไม่สามารถทำได้อยู่แล้ว ตอนนี้ทางชลประทานจังหวัดลพบุรียังคงสูบอยู่ต่อเนื่อง

น.ส.นภาภัทร ทับทิมพราย รายงาน