ส.ส่งออกข้าวฯปรับเป้าปี63 เหลือ 6.5ล้านตัน/จี้ทีมศก.ดูแลค่าเงิน-รับรองพันธุ์ฯเพิ่มขีดแข่งขัน

        นทบุรี - ร้อยตำรวจโทเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ตัวเลขการส่งออกข้าวช่วง 6 เดือนแรก (มกราคม-มิถุนายน 2563) ส่งออกได้ 3.14 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 32.7 จากช่วงเดียวกันของปี 2562 ที่ 4.67 ล้านตัน หรือมีมูลค่า 2,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยสาเหตุการส่งออกข้าวที่ลดลงเป็นผลมาจากหลายปัจจัย ทั้งเงินบาทแข็งค่ากว่าคู่แข่ง 30-80 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน รวมทั้งปัญหาภัยแล้ง ส่งผลให้ผลผลิตข้าวลดลด 5 ล้านตันข้าวเปลือก โดยนาปีลดลง 1 ล้านตัน และนาปรัง 2 รอบ ลดลง 4 ล้านตัน หรือร้อยละ 20 ของผลผลิตทั้งหมด ส่งผลให้ราคาข้าวในประเทศปรับตัวสูงขึ้น

        “ผู้นำเข้าข้าวสำคัญ เช่น ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย จีน นิยมบริโภคข้าวพื้นนุ่ม แต่ไทยไม่สามารถผลิตข้าวชนิดนี้ให้เพียงพอกับความต้องการได้ ขณะที่ราคาก็แข่งขันกับเวียดนามไม่ได้ โดยราคาข้าวขาว 5 % ของไทยอยู่ที่ 460 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ส่วนเวียดนามอยู่ที่ 360 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ด้านจีนก็มีสตอกข้าวมาก ความต้องการนำเข้าจึงลดลง พร้อมกันก็ได้ส่งออกข้าวไปตลาดแอฟริกามากขึ้น คาดว่าปีนี้จีนจะส่งออก 3.5-4 ล้านตัน อีกทั้ง การระบาดของโควิด-19 ที่กระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อผู้บริโภคลดลง และคาดว่าการส่งออกข้าวครึ่งปีหลังยังคงชะลอตัว เนื่องจากช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาเกิดการระบาดของโควิด-19 มีการซื้อไปค่อนข้างมาก”

       นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวเสริมว่า จากหลายปัจจัยดังกล่าว สมาคมฯได้ปรับคาดการณ์ปริมาณส่งออกข้าวปีนี้เหลือ 6.5 ล้านตัน จากเดิม 7.5 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 4,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่ำสุดในรอบ 20 ปี นับจากปี 2543 และสมาคมฯ ต้องการให้ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่เร่งแก้ปัญหา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ดูแลค่าเงินให้อ่อนค่าลงอยู่ในระดับ 32.50-33 บาท และเดินหน้าแผนยุทธศาสตร์ข้าว 10 ปี ให้ความสำคัญกับพันธุ์ข้าวใหม่ๆ ที่ตลาดต้องการ เช่น ข้าวพื้นนุ่ม และเร่งรับรองพันธุ์ข้าว เพื่อให้ไทยมีพันธุ์ข้าวใหม่ๆ เพิ่มขึ้น