จับตาสัญญาณน้ำจะเริ่มดีขึ้น ดินอิ่มตัว-น้ำไหลลงเขื่อนมากขึ้น

         สถานการณ์น้ำช่วงต้นของฤดูฝน นับแต่เริ่มเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการ 18 พฤษภาคม- 30 มิถุนายน 2563 แม้จะเต็มไปด้วยความกังวลใจที่เห็นมีปริมาณฝนตกมากพอสมควร แต่ปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่และขนาดกลางจำนวนมาก กลับเก็บกักได้น้อย อยู่ในระดับเท่ากับ หรือน้อยกว่า 30% ของความจุอ่าง
         ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า แม้ในช่วงแรกมีข้อน่ากังวล แต่ขณะนี้เริ่มมีสัญญาณดีให้เห็นอย่างน้อย 2 ประการ
         ประการแรก มีอย่างน้อย 2 วันในช่วงที่ผ่านมา เริ่มมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างมากกว่าปริมาณน้ำระบายออก เนื่องจากผืนดินแห้งผากตลอดฤดูแล้งที่ผ่านมาได้รับน้ำฝนจำนวนมาก จนเริ่มเข้าสู่จุดอิ่มตัว ทำให้ปริมาณน้ำท่าไหลลงอ่างเก็บน้ำเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้น รวมทั้งยังมีเหลือค้างอยู่ตามแหล่งน้ำคูคลองท้ายเขื่อน เกษตรกรสามารถใช้ประโยชน์ได้เช่นกัน

         ทั้งนี้ แม้ปริมาณน้ำในเขื่อนมีน้อย แต่ยังคงมีความจำเป็นต้องระบายน้ำลงมา เพื่อการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบ จึงทำให้น้ำในเขื่อนมีปริมาณลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง เพราะปริมาณน้ำเข้าน้อยกว่าปริมาณน้ำออกนั่นเอง
         ประการที่สอง ฝนลดลงโดยเฉพาะภาคเหนือและภาคกลาง เริ่มราวๆ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป เป็นระยะเวลา 10-15 วันก็ไม่ได้ลดลงในทุกพื้นที่ทั้งประเทศ บางพื้นที่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องไม่มากก็น้อย
         "จะเห็นความชัดเจนจริงๆ ราวกลางเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป คาดหมายว่าน้ำท่าจะไหลลงอ่างเก็บน้ำของเขื่อนต่างๆ อย่างมีนัยสำคัญ โดยลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงหอบฝนเข้ามาตามปกติ ระดับน้ำในเขื่อนก็จะค่อยๆ ทยอยเพิ่มขึ้น"

         นอกจากนั้น หากมีลมพายุจร ไม่ว่าพายุไต้ฝุ่นหรือพายุโซนร้อนพาดผ่านเข้ามา เป็นเรื่องที่ต้องระวังน้ำหลากเช่นกัน ถ้าเข้ามาในช่วงเดือนสิงหาคมไม่น่ามีปัญหา เขื่อนยังมีพื้นที่ว่างสามารถรองรับได้ในปริมาณมาก แต่ถ้าเข้ามาในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม พร้อมๆ กับที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดแรง โอกาสที่น้ำจะหลากท่วม เกิดเป็นอุทกภัยก็มีสูงเช่นกัน
         ดร.สมเกียรติกล่าวถึงกรณีน้ำท่วมพื้นที่จังหวัดระยองว่า เนื่องจากฝนตกหนักมากในช่วงเวลาสั้นๆ จนเป็นน้ำป่าไหลหลากลงท่วมพื้นที่ อ.เมือง อ.วังจันทร์ และ อ.ปลวกแดง จึงได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าติดตามระวัง ในกรณีพิ้นที่ลุ่มน้ำใดมีปริมาณฝนตกมาก 90 มิลลิเมตรให้เฝ้าจับตา หากยังคงตกต่อเนื่องเป็นวันที่สองเป็นระดับ 150 มิลลิเมตร ให้รีบแจ้งเตือนประชาชนและหน่วยงานเกี่ยวข้องเตรียมตัวรับมือน้ำป่าหลากท่วม
         "ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม ศูนย์อำนวยการน้ำแห่งชาติที่ตั้งอยู่ใน สทนช. จะระดมหน่วยงานเกี่ยวข้องด้านน้ำเข้ามาประจำการ เตรียมความพร้อมรับมือกับน้ำหลากและอุทกภัยอย่างเต็มตัว" เลขาธิการ สทนช. กล่าว