"รมช.ประภัตร" หนุนเกษตกรบ้านมอดินแดงปลูกหญ้าอาหารสัตว์

         เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.63 นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยช่วงเช้าพบปะกลุ่มเกษตรกรปลูกหญ้าเพื่อจำหน่ายบ้านมอดินแดง ปลูกหญ้าจากน้ำเสียโรงงานแป้งมันจำหน่ายทางออนไลน์ ณ บ้านมอดินแดง ต.โพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ จากนั้นเป็นประธานส่งมอบพันธุ์สัตว์ปีกและปัจจัยการผลิต ภายใต้โครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ปีกเพื่อฟื้นฟูเกษตรกรที่ประสบปัญหาอุทกภัย ตามแผนปฏิบัติการฟื้นฟู เยียวยา เกษตรกร ผู้ประสบภัยฝนทิ้งช่วงและอุทกภัย ปี 2562 พร้อมติดตามสถานการณ์การเพาะปลูกและสถานการณ์ภัยแล้ง และพบปะเกษตรกร ณ ที่ว่าการอำเภอกมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ และสหกรณ์การเกษตรเชียงยืนจำกัด อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม


         รมช.เกษตรฯ เผยว่า ปัจจุบันอาชีพทำนาประสบปัญหาเนื่องจากฝนทิ้งช่วง ภัยแล้ง และอุทกภัย ดังนั้นเกษตรกรจึงต้องหาอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้ได้ตลอดทั้งปี ซึ่งอาชีพด้านปศุสัตว์และการปลูกพืชสำหรับอาหารสัตว์นั้น สามารถยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ดีขึ้นได้ ซึ่งรัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินโครงการภายใต้บันทึกความเข้าใจ(MOU) โครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ และกิจการที่เกี่ยวเนื่องฯ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถภาคปศุสัตว์ไทย (โคขุนกู้วิกฤต Covid-19)ในวงเงินสินเชื่อ 50,000 ล้านบาท โดยเกษตรกรต้องรวมกลุ่มจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชน อย่างน้อย 7 คน กู้ได้ไม่เกินกลุ่มละ 10 ล้านบาท หรือกู้ 1 ล้านบาท ดอกเบี้ย 100 บาท โดยมีคอกกลางรับซื้อ


         "วันนี้ได้มาชี้แจงโครงการฯ ให้กับเกษตรกรได้เข้าใจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย พร้อมกับลงพื้นที่แปลงนาสำรวจความเสียหาย ซึ่งคาดว่าหากภายใน 2 สัปดาห์ไม่มีฝนตกลงมานาข้าวก็จะเสียหาย ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกจึงต้องนำโครงการฯ ส่งเสริมเลี้ยงสัตว์นี้เข้ามาช่วยพี่น้องเกษตรกร ทั้งนี้ ความต้องการโคเนื้อของต่างประเทศมีมากถึง500,000 - 1,000,000 ตัวต่อปี ไก่พื้นเมืองโดยเฉพาะตลาดประเทศกัมพูชา ต้องการไม่น้อยกว่า  50,000 ตัวต่อวัน ส่วนแพะมีความต้องการ 200,000 - 300,000 ตัวต่อปี และจากรายงาน ของ USDA (April 2020) ในปี 2563 คาดว่า ความต้องการบริโภคเนื้อโคของโลกมีมากถึง 60 ล้านตัน เนื้อสุกร 90 ล้านตัน และเนื้อไก่ 98 ล้านตัน ซึ่งความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์เพิ่มสูงขึ้น จึงเป็นโอกาสของพี่น้องเกษตรกรได้สร้างรายได้" นายประภัตร กล่าว

         สำหรับกิจกรรมของกลุ่มผู้ปลูกหญ้าบ้านมอดินแดง เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2554 ปัจจุบันมีสมาชิก 73 ราย พื้นที่เพาะปลูกหญ้า 853 ไร่ และมีแผนขยายพื้นที่ปลูกมากขึ้นเนื่องจากตลาดมีความต้องการสูง เพื่อจำหน่ายสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเป็นอย่างดี ซึ่งเดิมเกษตรกรชาวบ้านมอดินแดง ทำการปลูกมันสำปะหลัง แต่ให้ผลผลิตได้ไม่ตลอดทั้งปี จึงหันมาปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์เพื่อจำหน่ายโดยไม่พึ่งพาน้ำจากระบบชลประทานและน้ำใต้ดินเนื่องจากพื้นที่แห่งนี้ได้ใช้น้ำเสียที่บำบัดแล้วจากโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลังที่เป็นแหล่งน้ำตลอดทั้งปี และหญ้าดังกล่าวสามารถตัดจำหน่ายได้ตลอดทั้งปีเช่นเดียวกัน โดยจำหน่ายทั้งหญ้าสดและหญ้าหมัก มีตลาดรองรับ และปัจจุบันได้พัฒนาช่องทางการขายทางออนไลน์ เพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ซื้อและผู้ขาย อีกทั้งยังได้มอบนโยบายในการสนับสนุนปลูกหญ้าเนเปียร์สร้างรายได้ภายใต้โครงการฯ ซึ่งได้ดำเนินการ kick off ไปแล้วแห่งแรกที่ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อส่งผลิตอาหารแบบผสมเสร็จ TMR สำหรับโคขุนให้ได้รับอาหารที่ดี เกษตรกรปลูกหญ้าเนเปียร์โดยได้รับการสนับสนุนน้ำจากโรงงานแป้งมัน ธกส.สนับสนุนสินเชื่อให้เกษตรกรเพื่อการเตรียมดินปลูกหญ้า พร้อมกันนี้มีประกันราคาซื้อ50 สตางค์/กก. โดย 1 ไร่ มีผลผลิตประมาณ 8 ตัน เกษตรกรจะมีรายได้ 4,000 บาท/ไร่/รอบ (ตัดที่อายุ 50 วัน/รอบ ตัดหญ้าได้ 5 รอบ/ปี)