ก.เกษตรฯ นำสุดยอดลิ้นจี่เมืองเหนือสู่ตลาดออนไลน์

         นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธี Kick Off โครงการรณรงค์การบริโภคลิ้นจี่คุณภาพจังหวัดเชียงใหม่เพื่อกระจายผลผลิตลิ้นจี่คุณภาพออกนอกพื้นที่และเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคไวรัสโควิด-19 ณ สวนลิ้นจี่จักรพรรดินายวุฒิไกร ทะสุใจ ต.แม่สูน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ โดยมี นายชาตรี บุญนาครอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร นายวิรุฬ พรรณเทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายสมเจตน์ วายุภาพ ผู้จัดการฝ่ายไปรษณีย์เขต 5 นางเขมวรรณ ดวงจันทร์ เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ หน่วยงานราชการ และเกษตรกรร่วมในพีธี

         ทั้งนี้ นายนราพัฒน์ กล่าวว่า ลิ้นจี่เป็นไม้ผลที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจชนิดหนึ่งของประเทศไทยมีพื้นที่การผลิตประมาณ 62,225 ไร่ ส่วนใหญ่อยู่ทางภาคเหนือตอนบนได้แก่ เชียงใหม่ พะเยา น่าน และเชียงราย ซึ่งปลูกมากที่สุดคือ จังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่ปลูกกว่า 45,094 ไร่ และในปี 2563 ให้ผลผลิตจำนวน 20329 ตัน ซึ่งมีแหล่งผลิตที่สำคัญได้แก่ อำเภอฝาง อำเภอแม่อาย อำเภอไชยปราการ อำเภอแม่แตง อำเภอแม่ริม และอำเภอเมืองเชียงใหม่ พันธุ์ที่ปลูกมากที่สุดได้แก่ พันธุ์จักรพรรดิคิดเป็นร้อยละ 70 และพันธุ์ฮงฮวยคิดเป็นร้อยละ 30 ผลผลิตออกสู่ตลาดช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคม และออกมากที่สุดในเดือนมิถุนายน ส่วนการตลาดนั้น ส่วนใหญ่จำหน่ายให้แก่ผู้รับซื้อภายในประเทศ ส่งโรงงานแปรรูปและตลาดภายในประเทศ ซึ่งภาวะปัจจุบันกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกลิ้นจี่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้เกษตรกรไม่สามารถจำหน่ายผลผลิตลิ้นจี่ได้ในช่วงที่ผลผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก

         กรมส่งเสริมการเกษตร โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ ขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ใช้ตลาดนำการผลิตร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลแอร์พอร์ตพลาซ่า ห้างบิ๊กซี ร่วมกันกระจายผลผลิตของเกษตรกรเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้ผลิตเพิ่มช่องทางกระจายผลผลิตดังกล่าว โดยเฉพาะลิ้นจี่พันธุ์จักรพรรดิที่มีแหล่งผลิตในจังหวัดเชียงใหม่เท่านั้นจึงได้จัดโครงการประชาสัมพันธ์รณรงค์การบริโภคลิ้นจี่คุณภาพจังหวัดเชียงใหม่โดยผ่านช่องทางตลาดออนไลน์บริษัทไปรษณีย์ไทยจำกัด ซึ่งจะทำให้เกษตรกรสามารถนำลิ้นจี่แปลงใหญ่คุณภาพดีออกสู่ตลาดและส่งตรงถึงผู้บริโภค ซึ่งนอกจากจะทำให้ผู้บริโภคได้ลิ้มรสลิ้นจี่คุณภาพดีหนึ่งเดียวในประเทศแล้วยังจะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถผ่านพ้นการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 และทำให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกทั้งยังสร้างขวัญและกำลังใจแก่เกษตรกรต่อไปอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน