ก.เกษตรผนึกทุกภาคส่วนขับเคลื่อน 8 มาตรการ/ช่วยเหลือเกษตรกรผลไม้เจอวิกฤต Covid-19

     ายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังประชุม Conference ระหว่างส่วนราชการภาคเอกชน ภาคเกษตรกร เพื่อติดตามความก้าวหน้าบริหารจัดการขนส่งผลไม้ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 ว่า ดร. เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำชับให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรช่วงที่ผลไม้เริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้น โดยที่ประชุมได้สรุปแนวทางบริหารจัดการผลไม้ที่ได้ขับเคลื่อนมาระยะหนึ่ง แบ่งเป็น 8 มาตรการ ดังนี้

      1.มาตรการด้านการผลิต ได้แก่ 1) บริหารจัดการเรื่องแรงงานเก็บผลไม้ โดยจะผ่อนผันการเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามเขต ขยายต่อใบอนุญาตให้แรงงานต่างด้าว 3 เดือน และเน้นตรวจสุขภาพให้แก่แรงงานทุกราย 2) ดูแลความเป็นธรรมเรื่องราคาและปริมาณ จะใช้กฎหมายการแข่งขันทางการค้า และกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้า-บริการเข้ามาควบคุม 3) ส่งเสริมให้ทำคอนแทรกฟาร์มมิ่ง เกษตรพันธะสัญญา 4) เชื่อมโยงการกระจายผลไม้ผ่านห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต และผู้บริโภคโดยสนับสนุนบรรจุภัณฑ์ ขนาด 5 กิโลกรัม (กก.) 10 กก. และ 20 กก.ให้แก่เกษตรกร

     2.มาตรการด้านตลาดในประเทศ ได้แก่ 1) เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าเกษตร โดยขอความร่วมมือไปรษณีย์ไทยช่วยจัดส่งผลไม้ฟรี 200 ตัน ซึ่งอยู่ระหว่างหารือถึงความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มปริมาณขึ้นอีก 2) ผลักดันให้นำผลไม้จำหน่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ และส่งเสริมให้เกษตรกร-ผู้ประกอบการจำหน่ายผลไม้ทางช่องทางออนไลน์ 3) รณรงค์บริโภคผลไม้ในประเทศ (Eat Thai First) เพื่อส่งเสริมให้คนไทยได้บริโภคผลไม้ไทยเกรด Premium ในราคายุติธรรมตามฤดูกาล และส่งเสริมให้นำผลไม้มอบเป็นของฝากของขวัญ

     3.มาตรการด้านตลาดต่างประเทศ ได้แก่ 1) เจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ออนไลน์ให้มากขึ้น 2) มอบหมายทูตพาณิชย์เร่งส่งเสริมการขายผลไม้ช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาด ประสานการจัดหาสินค้านำเข้าไทยเพื่อลดต้นทุนค่าขน ส่งทางอากาศจากไทย 4) สนับสนุนค่าขนส่งทางอากาศ

     4.มาตรการเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ ได้แก่ 1) สนับสนุนดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการที่รวบรวมผลไม้ในอัตรา 3% ระยะเวลา 10 เดือน 2) ชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการที่รวบรวมผลไม้เพื่อส่งออกอัตรา 3% ระยะเวลา 6 เดือน และ 3) ช่วยค่าใช้จ่ายรวบรวมเพื่อส่งออกอีกกิโลกรัมละ 3 บาท เป้าหมาย 1 หมื่นตัน

     5.มาตรการช่วยเหลือทางการเงินแก่สถาบันเกษตรกร-ผู้ประกอบการ โดยเตรียมมาตรการช่วยลดภาระทางการเงิน ซึ่งมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เป็นหน่วยงานหลัก ขอความร่วมมือ ธ.ก.ส.ผ่อนปรนการชำระหนี้ให้เกษตรกร โดยบอร์ด ธ.ก.ส.ได้พิจารณาอนุมัติมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2563 ดังนี้

        5.1) ปรับโครงสร้างหนี้กับลูกหนี้ โดยปลอดการชำระหนี้เป็นเวลา 3 ปี ระยะเวลาดำเนินมาตรการ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563-31 ธันวาคม 2564

            - เกษตรกร หรือลูกหนี้รายบุคคล ขยายเวลาการชำระหนี้ออกไปไม่เกิน 15 ปี

            - กรณีผู้ประกอบการและสถาบัน ขยายเวลาการชำระหนี้ออกไปไม่เกิน 20 ปี

        5.2) สนับสนุนสินเชื่อฟื้นฟูเพื่อเสริมสภาพคล่อง ให้เกษตรกร สถาบันเกษตร และผู้ประกอบการเพื่อนำไปเสริมสภาพคล่องดำเนินธุรกิจ ดังนี้

            - รายบุคคล ให้กู้ไม่เกิน 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ย -0.25 จากสินเชื่อปกติ

            - สถาบัน วงเงินไม่จำกัด อัตราดอกเบี้ย MLR -0.5

    6.มาตรการเสริมศักยภาพการบริหารจัดการมาตรฐานผลไม้ ได้แก่ สร้าง Central Lap ของไทยกรณีสินค้าเกษตรส่งออกไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยจะไม่มีการตรวจ สอบซ้ำที่ด่านปลายทาง ทั้งนี้ อยู่ระหว่างหารือกับหน่วยงานฝ่ายจีน และเร่งออกใบรับรองมาตรฐาน GAP จำนวน 70,000 แปลงให้เกษตรกรไทย รวมทั้งสร้างองค์ความรู้ด้านเทคนิคการบรรจุห่อเพื่อยืดอายุผลไม้ในยาวนานขึ้น

    7.มาตรการเก็บรักษาและแปรรูปสร้างมูลค่าผลไม้ โดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

       7.1 ผลไม้ส่วนเกินนำเข้าสู่ระบบการเก็บรักษาด้วยการอบการแช่เย็นและวิธีอื่นๆ

       7.2 การแปรรูปผลไม้เป็นอาหารและเครื่องดื่มสำหรับตลาดในและต่างประเทศ

    8.มาตรการเพิ่มปริมาณการบริโภคภายในประเทศและระบบโลจิสติกส์

        8.1 ระบบโลจิสติกส์และการจำหน่ายผลไม้ทุกชุมชนทั่วประเทศโดยสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรผลไม้ร่วมกับผู้ประกอบการผลไม้และผู้ประกอบการบริการโลจิสติกส์โดยการสนับสนุนงบประมาณของคชก.และกระทรวงพาณิชย์รวบรวมผลผลิตขนส่งและจำหน่ายทั่วประเทศผ่านร้านธงฟ้า สหกรณ์ รถเร่และตลาดชุมชนกว่า 70,000 จุด

        8.2 ขอความร่วมมือหน่วยราชการส่วนกลาง/ภูมิภาค/ท้องถิ่น-รัฐวิสาหกิจ-องค์กรมหาชน-รัฐสภา-องค์กรอิสระกว่า 10,000 หน่วย ช่วยซื้อผลไม้โดยแจ้งปริมาณจะจัดส่งทุก 5 วัน และขอความร่วมมือเป็นจุดขาย