ก.เกษตรฯบูรณาการทุกหน่วยสร้างเชื่อมั่นผู้บริโภค/โควิด-19ไม่ทำสินค้าเกษตร-อาหารขาดแคลน

      ายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนชาวไทย รวมถึงความกังวล ความเชื่อมั่นในการมีอาหารและสินค้าที่เพียงพอต่อความต้องการอุปโภคบริโภคในประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ดร.เฉลิมชัย  ศรีอ่อน) ได้มอบหมายให้ สศก. ติดตามสถานการณ์ วิเคราะห์ รวบรวมข้อ มูลผลผลิตสินค้าเกษตรแบบรายจังหวัด โดยลงลึกถึงระดับตำบลในสินค้าพืช และระดับอำเภอในสินค้าปศุสัตว์ ประมง ทั้งนี้ สศก.ได้บูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ เพื่อสำรวจและจัดทำเป็นชุดข้อมูลสินค้าเกษตรที่มีอยู่ในจังหวัดของประเทศไทย ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนการวางแผนด้านนโยบายของแต่ละจังหวัดในการตรวจสอบปริมาณผลผลิตสินค้าเกษตรที่มีภายในจังหวัด สามารถบริหารจัดการสินค้าและกระจายสินค้าให้ถึงมือประชาชนในจังหวัดได้อย่างถูกต้องและทั่วถึง สร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนคนไทยมั่นใจว่ามีอาหารสำหรับบริโภคอย่างเพียงพอ และลดความตื่นตระหนกในการซื้อสินค้ากักตุนเกินความจำเป็น

       จากการติดตามสถานการณ์ของ สศก. ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาชนจึงมั่นใจได้ว่าสินค้าเกษตรและอาหารยังมีเพียงพอสำหรับการบริโภคในประเทศอย่างแน่นอน และยังสามารถรักษาระดับการส่งออกได้อย่างต่อเนื่อง โดยหากมองถึงสถานการณ์การส่งออกสินค้าเกษตรสำคัญไทย เช่น ทุเรียน และมังคุด ซึ่งผลผลิตกำลังทยอยออกสู่ตลาดในช่วงนี้ ยังคงสามารถส่งขายไปตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะตลาดจีนที่กำลังทยอยเปิดด่านชายแดน หลังจากสถานการณ์คลี่คลาย และประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ การส่งออกข้าว และอาหารสำเร็จรูป ยังมีความต้องการซื้อจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มูลค่าการค้าส่งออกสินค้าเกษตร 2 เดือนของไทยไปตลาดโลกในช่วง ม.ค.-ก.พ. 2563 รวมมูลค่า 179,011 ล้านบาท สินค้าส่งออกสำคัญที่มีมูลค่าสูง ได้แก่ อาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์และอาหารทะเล ข้าว น้ำตาล อาหารสำเร็จรูปอื่นๆ และผลไม้ โดยตลาดสำคัญยังคงเป็นอาเซียน 46,638 ล้านบาท รองลงมา คือ ตลาดจีน 29,055 ล้านบาท ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ตามลำดับ