กรุงเทพฯ - นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากกระแสที่ประชาชนหาซื้อไข่ไก่สด ได้ยากลำบาก มีราคาแพง จนมีผลกระทบสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมปศุสัตว์สำรวจข้อมูลพบว่า มีแม่ไก่ไข่ยืนกรงประมาณ 49 ล้านตัว ให้ผลผลิตไข่สดราว 41 ล้านฟองต่อวัน อัตราการบริโภคในประเทศ ราว 39 ล้านฟองต่อวัน จึงมีไข่สดบางส่วนที่เกินความต้องการในประเทศ และผู้ประกอบ การบางรายจำเป็นต้องส่งไข่ส่วนเกินออกจำหน่ายต่างประเทศ เพื่อไม่ให้ไข่ล้นตลาดและพ่อค้าคนกลางกดราคารับซื้อ เป็นการรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่ในประเทศให้เกษตรกรพออยู่ได้ไม่ขาดทุน และไม่ทำให้ผู้บริโภคในประเทศเดือดร้อน

       “กระทรวงเกษตรฯ ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ประสานเจรจาเป็นการเร่งด่วนขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการส่งออกไข่ไก่สด ในการชะลอการส่งออก ซึ่งก็ได้รับความร่วม มือเป็นอย่างดี โดยจะไม่มีการอนุญาตให้ส่งออกตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย” รมว.เกษตรฯ กล่าว

       ด้านนายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า นอกจากชะลอการส่งออกแล้ว กรมปศุสัตว์ยังแจ้งให้ฟาร์มไก่ไข่ทั่วประเทศยืดอายุการเลี้ยงแม่ไก่ยืนกรงออกไปตามที่แต่ละฟาร์มเห็นเหมาะสม จากเดิมที่กำหนดให้ปลดแม่ไก่ยืนกรงที่อายุ 80 สัปดาห์ เพื่อเพิ่มปริมาณไข่ไก่เข้าสู่ตลาด อีกทั้ง กรมปศุสัตว์จะจัดส่งเจ้าหน้าที่สารวัตรกรมปศุสัตว์ลงพื้นที่ตรวจตามศูนย์รวบรวมไข่ไก่ สถานที่จำหน่ายทั่วประเทศ โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2559 เพื่อตรวจสอบปริมาณไข่ไก่ การเคลื่อนย้าย แหล่งที่มา อย่างเข้มงวด เพื่อเฝ้าระวังมิให้มีการนำไข่ไก่ที่ไม่ทราบแหล่งที่มา รวมถึงไข่ไก่ที่ไม่สะอาดปลอดภัย แล้วนำมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคด้วย

       อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดด้านปศุสัตว์ ต้องการร้องเรียน แจ้งเบาะแสเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ผ่านแอปพลิเคชัน (Application) "DLD 4.0" ดาวน์โหลดและติดตั้งได้ทั้งระบบ iOS ผ่าน App Store และระบบ Android ผ่าน Google play เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายได้ทันท่วงที

       ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 12 พ.ศ.2563 เรื่อง ห้ามส่งออกไข่ไก่สดไปนอกราชอาณาจักร