ราคาสินค้าเกษตร (ม.ค.63)/เปลือกเจ้า,มันสำปะหลังลดลง-7ชนิดแนวโน้มเพิ่มขึ้น

    รุงเทพฯ - นายสมเกียรติ กิมาวหา ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การ เกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่าศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส.คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตร ประจำเดือนมกราคม 2563 ดังนี้

    1) มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ราคาขายอยู่ที่ 13,668-13,976 บาท/ตัน เพิ่มจากเดือนก่อนร้อยละ 0.04-2.29 เพราะเป็นปลายฤดูเก็บเกี่ยว,ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ความชื้นไม่เกิน 14.5% ราคาขายอยู่ที่ 7.96-8.08 บาท/กก.เพิ่มจากเดือนก่อนร้อยละ 1.00-2.50 เพราะปลูกรุ่น2 ช่วงฤดูแล้งทำให้ปริมาณผลผลิตในตลาดมีน้อย ,ยางพาราแผ่นดิบ ราคาอยู่ที่ 38.54-38.61 บาท/กก.เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.03-0.20 เนื่องจากรัฐเตรียมดำเนินโครงการผลิตหมอนยางพาราประชารัฐ 30 ล้านใบ มูลค่า 18,000 ล้านบาท เพื่อช่วยดูดซับยางออกจากระบบ 150,000 ตัน บวกปัญหาโรคใบร่วงพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างแหล่งผลิตยางพาราสำคัญ ทำให้อุปทานออกสู่ตลาดลดลง, ปาล์มน้ำมัน ราคาขายอยู่ที่ 4.88-5.08 บาท/กก.เพิ่มจากเดือนก่อนร้อยละ 7.25-11.65 เพราะเป็นช่วงให้ผลผลิตน้อย และมาตรการส่งเสริมใช้น้ำมันไบโอดีเซลที่ดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบได้มาก

        น้ำตาลทรายดิบตลาดนิวยอร์ก ราคาขายอยู่ที่ 13.50-13.64 เซนต์/ปอนด์ (8.99-9.09 บาท/กก.) เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.00-2.00 เพราะยังคงมีแรงซื้อจากนักลงทุนจากการคาดการณ์ผลผลิตน้ำตาลตลาดโลก ปี 2562/ 2563 ที่มีแนวโน้มลดลงจากปัญหาภัยแล้ง ,หมู(สุกร) ราคาขายอยู่ที่ 62.00-64.50 บาท/กก.เพิ่มจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.75-4.83 เนื่องจากความต้องการบริโภคในประเทศเพิ่มขึ้น บวกกับการส่งออกขยายตัวรองรับความต้องการจากประเทศเพื่อนบ้านที่ขาดแคลนจากปัญหาโรคอหิวาต์แอฟริกา (ASF) และ กุ้งขาวแวนนาไม ขนาด 70 ตัว/กก.ราคาขายอยู่ที่ 150-160 บาท/กก.เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.35-8.10 อากาศแปรปรวนทำให้กุ้งโตช้า ส่งให้ปริมาณเข้าสู่ตลาดน้อยลง

     2) สินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับลดลง คือ ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ราคาขายอยู่ที่ 7,625-7,633 บาท/ตัน เหตุเงินบาทแข็งค่าขึ้น ความต้องการนำเข้าของฮ่องกงมีแนวโน้มลดลงจากเหตุการณ์ทางการเมือง และมันสำปะหลัง ราคาอยู่ที่ 1.93-1.98 บาท/กก. เพราะเป็นฤดูเก็บเกี่ยว ผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น ขณะที่การส่งออกแนวโน้มลดลง