กรมชลฯตั้งศูนย์ ฉก.รับวิกฤติแล้ง 62/63 : เปิดสายด่วน-เฟซบุ๊ก แก้ปัญหาช่วย ปชช.

        รุงเทพฯ นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน แถลงข่าวจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจ (ฉก.) แก้ไขและบรรเทาวิกฤติภัยแล้งปี 2562/63 พร้อมปล่อยคาราวานเครื่องจักรกลช่วยภัยแล้ง เพื่อช่วยเหลือประชาชนได้ท่วงที โดยกล่าวว่า ปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศอยู่ในเกณฑ์น้อย ทั้งจะมีภาวะฝนทิ้งช่วงตั้งแต่มกราคม-มิถุนายน 2563 กรมชลประทาน จึงต้องจัดสรรน้ำตามแผนอย่างเคร่งครัด โดยขอให้ทุกภาคส่วนปฏิบัติตามและใช้น้ำอย่างประหยัด

        สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง ปัจจุบันมีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 47,377 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) หรือร้อยละ 62 ของความจุอ่างรวมกันทั้งหมด มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน 23,531 ล้าน ลบ.ม.หรือร้อยละ 45 เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำรวมกัน 11,157 ล้าน ลบ.ม.หรือร้อยละ 45 มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน 4,461 ล้าน ลบ.ม.โดยส่งน้ำเฉพาะสนับสนุนการอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ และไม้ผล ไม้ยืนต้น เท่านั้น

         ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำเก็บกักอยู่ในเกณฑ์ร้อยละ 31-50 ของความจุอ่าง มีจำนวน 10 แห่ง ได้แก่ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก, เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก, เขื่อนแม่มอก จ.ลำปาง, เขื่อนห้วยหลวง จ.อุดรธานี, เขื่อนลำตะคอง เขื่อนมูลบน เขื่อนลำแซะ จ.นครราชสีมา, เขื่อนบางพระ จ.ชลบุรี, เขื่อนหนองปลาไหล จ.ระยอง และเขื่อนประแสร์ จ.ระยอง สนับสนุนได้เฉพาะอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ และการปลูกพืชใช้น้ำน้อย เท่านั้น

         นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวเพิ่มเติมว่า เครื่องจักรและเครื่องมือ จำนวน 4,316 ชิ้น จะถูกส่งไปยังทั่วประเทศ โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ จ.นนทบุรี และอีก 6 จังหวัด คือ จ.เชียงใหม่ จ.พิษณุโลก จ.ขอนแก่น จ.นครราชสีมา จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.นนทบุรี หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่ โทรสายด่วน 1460 หรือ เฟซบุ๊ก "เรารักชลประทาน รอบรั้วชลประทาน