ภายหลังการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายกระทรวงพลังงาน เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 62 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงพลังงาน โดยเฉพาะ บมจ.ปตท. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สถาบันบริหารกองทุนน้ำมัน (องค์การมหาชน) ไประดมความเห็นร่วมกันเพื่อจัดหามาตรการดูแลค่าครองชีพประชาชนด้านพลังงาน เช่น ค่าบริการ และค่าไฟ ทั้งนี้ต้องการให้พลังงานนั้นลดความเหลื่อมล้ำ และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ
ขณะเดียวกันได้มอบให้กลุ่ม ปตท.ไปเร่งดำเนินโครงการปุ๋ยสั่งตัด เพื่อช่วยเหลือภาคเกษตรกร โดยเชิญนักลงทุนหรือผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศมาร่วมทุนหรือร่วมดำเนินการ ซึ่งไม่ถือว่าเป็นการแย่งตลาดปุ๋ยจากเอกชนเพราะเน้นปุ๋ยสูตรที่จำเป็นเพื่อลดต้นทุนเกษตรกรเท่านั้น และให้จับมือกับสหกรณ์ที่จะใช้เป็นเครือข่ายในการกระจายปุ๋ยและสินค้าด้านเกษตรต่างๆ ผ่านสถานีบริการน้ำมัน หรือ PTT Station รวมทั้งให้พิจารณาเร่งรัดการทำห้องเย็นที่เป็นขนาดเล็กเพื่อเก็บผลไม้ในการลดปัญหาราคาตกต่ำ นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้ ปตท.และบริษัทในเครือมุ่งเน้นดำเนินธุรกิจที่สอดรับกับโมเดลพัฒนาเศรษฐกิจรูปแบบ BCG ที่ประกอบด้วย Bio Economy, Circular Economy และ Green Industry ที่เป็นเทรนด์ของโลก
ด้าน นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. กล่าวว่า ปตท.กำลังวางแผนทำทั้ง 2 เรื่อง แต่สิ่งสำคัญคือต้องทำให้เบ็ดเสร็จ เพราะถ้าสร้างห้องเย็นแล้วไม่มีช่องทางจำหน่ายในอนาคตจะทำอย่างไร ส่วนปุ๋ยสั่งตัดก็กำลังทดลองหลายพื้นที่และใช้ผลพลอยได้จากปิโตรเคมีในกลุ่ม ปตท.มาผลิต และจะใช้เอนไซม์หรือส่วนผสมอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยร่วมมือกับกรมที่ดินในการพัฒนาปุ๋ยสั่งตัดให้เหมาะสมกับพื้นที่ด้วย