กรมชลฯ เดินหน้าพัฒนาระบบน้ำภาคตะวันออกรับ "อีอีซี"

         นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้วางแนวทางพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อรองรับการขยายตัวของทุกภาคส่วนในพื้นที่ภาคตะวันออก ด้วยการกำหนดแผนงานพัฒนาและปรับปรุงแหล่งน้ำ เพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำระยะเวลา 10 ปี อาทิ การปรับปรุงแหล่งน้ำเดิม 7 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล จ.ระยอง อ่างเก็บน้ำหนองค้อ อ่างเก็บน้ำบ้านบึง อ่างเก็บน้ำมาบประชัน อ่างเก็บน้ำคลองหลวงฯ จ.ชลบุรี และอ่างเก็บน้ำคลองสียัด จ.ฉะเชิงเทรา การปรับปรุงแหล่งน้ำทั้ง 7 แห่งนี้ สามารถเพิ่มความจุอ่างฯ รวมกันประมาณ 102 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) จากความจุเดิมรวมกัน 770 ล้าน ลบ.ม. เป็น 872 ล้าน ลบ.ม.


         ขณะเดียวกันได้มีการพัฒนาแหล่งน้ำใหม่เพิ่มขึ้นอีก 4 แห่ง ในลุ่มน้ำคลองวังโตนด จ.จันทบุรี ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำคลองประแกด อ่างเก็บน้ำคลองพะวาใหญ่ อ่างเก็บน้ำคลองหางแมว และอ่างเก็บน้ำวังโตนด ทำให้มีปริมาณน้ำต้นทุนเพิ่มขึ้นรวม 308.50 ล้าน ลบ.ม. สำหรับใช้ในภาคการเกษตรในลุ่มน้ำวังโตนดอย่างเพียงพอและผันน้ำส่วนเกินปีละประมาณ 47 ล้าน ลบ.ม. มาช่วยพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) รวมถึงการสูบผันน้ำจากคลองสะพานไปเก็บไว้ในอ่างเก็บน้ำประแสร์ ทำให้ได้น้ำใช้การได้อีกปีละประมาณ 80 ล้าน ลบ.ม. ส่วนการเชื่อมโยงแหล่งน้ำและระบบผันน้ำจะดำเนินการเพิ่มเติมอีก 2 แห่ง คือ การปรับปรุงคลองพานทอง เพื่อผันน้ำไปลงอ่างเก็บน้ำบางพระ ได้น้ำประมาณ 20 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี และโครงการผันน้ำประแสร์-หนองค้อ-บางพระ เพื่อใช้รองรับการบริหารจัดการน้ำร่วมกันจากระบบผันน้ำจากคลองวังโตนด และน้ำที่ได้จากคลองสะพาน ซึ่งจะสามารถผันน้ำส่วนเกินไปเก็บไว้ในอ่างเก็บน้ำอื่นๆ ในการกระจายไปสู่พื้นที่ใช้น้ำต่อไป

 

         ในปี 2562 กรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์ว่าฝนจะน้อยกว่าค่าปกติ กรมชลประทานจึงเตรียมความพร้อม โดยสูบผันน้ำโครงการต่าง ๆ ได้แก่ โครงการสูบผันน้ำท่อส่งน้ำเชื่อมโยงอ่างเก็บน้ำประแสร์-อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ วางแผนสูบน้ำประมาณ 80 ล้าน ลบ.ม./ปี หรือประมาณ 275,000ลบ.ม./วัน ปัจจุบันสูบสะสมไปแล้วประมาณ 49.75 ล้าน ลบ.ม. และโครงการผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่-อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล วางแผนผันน้ำประมาณ 80 ล้าน ลบ.ม./ปี หรือประมาณ 500,000 ลบ.ม./วัน ปัจจุบันผันน้ำสะสมไปแล้วประมาณ 27.70 ล้าน ลบ.ม.


         สำหรับโครงการสูบผันน้ำผ่านท่อส่งน้ำเชื่อมโยงคลองพระองค์ไชยานุชิต-อ่างเก็บน้ำบางพระ จ.ชลบุรี ปัจจุบันเริ่มเดินเครื่องสูบน้ำตามแผนที่ได้วางไว้ตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคมเป็นต้นมา โดยจะทยอยสูบน้ำตามแผนไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2562 ประมาณวันละ 500,000 ลบ.ม. หรือเดือนละ 14 ล้าน ลบ.ม. คาดว่าจะสามารถสูบผันน้ำมาลงอ่างเก็บน้ำบางพระได้ประมาณ 70 ล้าน ลบ.ม. ขณะนี้สูบน้ำสะสมไปแล้วประมาณ 2 ล้าน ลบ.ม. และระบบสูบผันน้ำแม่น้ำบางปะกง - อ่างเก็บน้ำบางพระ ของบริษัท อีสวอเตอร์ จำกัด (มหาชน) สูบผันน้ำได้วันละประมาณ 100,000 ลบ.ม. หรือเดือนละ 3 ล้าน ลบ.ม. คาดว่าจะสามารถสูบผันน้ำมาลงอ่างบางพระได้ประมาณ 15 ล้าน ลบ.ม. ช่วยเพิ่มความมั่นคงด้านน้ำให้กับทุกกิจกรรมการใช้น้ำในเขตจังหวัดชลบุรีได้เป็นอย่างมาก


         "กรมชลประทานยังคงเดินหน้าหาแนวทางพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคตะวันออก รวมถึงภาคการเกษตรและการท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดความมั่นคงและสร้างเสถียรภาพด้านการใช้น้ำอย่างทั่วถึง เพียงพอ และเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน" นายทวีศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย