กรมข้าวแนะเกษตรกรทำนา"เปียกสลับแห้ง"รับมือฝนทิ้งช่วง /ประหยัดน้ำ-ต้นข้าวแข็งแรง ทนโรค

 

       รุงเทพฯ 9 ก.ค. - นายประสงค์ ประไพตระกูล อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า จากข้อมูลของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร  (สสนก.) ได้ออกเตือนเกษตรกรถึงการเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคมจนถึงเดือนกันยายน 2562 จึงจำเป็นต้องวางแผนในการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนหลักที่มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำไม่ถึงร้อยละ 30 ให้มีประสิทธิภาพ โดยในปลายปี 2562 ถึงต้นปี 2563 อาจจะเกิดวิกฤตภัยแล้งได้ จึงขอให้พี่น้องชาวนา - เกษตรกรบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค รวมไปถึงการทำนาปลูกข้าว ที่จำเป็นจะต้องใช้น้ำในการดูแลผลผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะฝนทิ้งช่วงย่อมมีปัญหาต่อการปลูกข้าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

          ทั้งนี้ กรมการข้าวได้วิจัยการจัดการน้ำแบบเปียกสลับแห้งในการทำนา พบว่า สามารถช่วยประหยัดน้ำได้ถึงร้อยละ 30 -50 ขึ้นอยู่กับชนิดของดินและสภาพอากาศในแต่ละพื้นที่ ซึ่งการทำนาแบบให้น้ำขังตลอดฤดูปลูกซึ่งเป็นวิธีปกติของชาวนาทั่วไปจะต้องใช้น้ำประมาณ 1,200 ลบ.ม./ไร่/ฤดู อีกทั้ง ยังช่วยลดต้นทุนค่าน้ำมันเชื้อเพลิงสูบน้ำได้ร้อยละ 30 นอกจากนี้ ในสภาพดินแห้ง รากข้าวได้รับอากาศสามารถแตกรากข้าวใหม่มากขึ้นเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับธาตุอาหารได้ดีขึ้น ต้นข้าวแข็งแรง ทนต่อโรคและแมลงศัตรูข้าวได้ดีขึ้น ช่วยลดการใช้ปุ๋ยและสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูข้าวอีกทางหนึ่ง ชาวนาที่สนใจหรือมีข้อสงสัย สอบถามได้ที่ศูนย์วิจัยข้าวหรือศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวในพื้นที่

         โดยการจัดการน้ำแบบเปียกสลับแห้งในนาข้าวมีขั้นตอน ดังนี้ 1) เตรียมดิน 2) ปรับให้พื้นที่สม่ำเสมอ 3) ปลูกข้าว (หว่าน ปักดำ หรือหยอด) 4) ถ้าปลูกด้วยวิธีการหว่าน หลังหว่านระบายน้ำให้แห้งเพื่อให้เมล็ดงอกสม่ำเสมอ พ่นสารคุม-ฆ่าวัชพืชหลังหว่าน 10 วัน และเอาน้ำเข้าแปลงหลังพ่นสารภายใน 2 วัน ประมาณครึ่งต้นข้าว รักษาระดับน้ำจนถึงช่วงการใส่ปุ๋ยรองพื้น 5) เมื่อข้าวอายุ 20-25 วันให้ใส่ปุ๋ยรองพื้น 6) หลังหว่านปุ๋ยปล่อยน้ำในนาให้แห้งไปโดยธรรมชาติจนน้ำอยู่ที่ระดับ 15 ซม.ใต้ผิวดิน สูบน้ำเข้าแปลงจนระดับน้ำสูง 5 ซม.เหนือผิวดิน จากนั้นปล่อยน้ำให้แห้งไปตามธรรมชาติ ทำสลับกันไปจนถึงช่วงการใส่ปุ๋ยแต่งหน้า ที่ระยะกำเนิดช่อดอก หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าระยะข้าวแต่งตัว 7) ใส่ปุ๋ยแต่งหน้า และรักษาระดับน้ำในแปลงให้อยู่ที่ 5 ซม.เหนือผิวดิน จนถึงก่อนเก็บเกี่ยว 10 วัน จึงปล่อยให้แปลงแห้งเพื่อให้ข้าวสุกแก่สม่ำเสมอและสะดวกต่อการเก็บเกี่ยว

         ส่วนการดูระดับน้ำ ให้เกษตรกรติดตั้งท่อดูน้ำ 1-2 จุด ในแปลงนา (ท่อดูระดับน้ำเป็นท่อพีวีซีขนาดความยาว 25 ซม.เส้นผ่านศูนย์กลาง 4 นิ้ว เจาะรูด้วยสว่านเส้นผ่านศูนย์กลางหุนครึ่งถึงสองหุน 4-5 แถวรอบๆ ท่อ แต่ละรูห่างกัน 5 ซม.ฝังลงไป 20 ซม.ให้ปากท่อโผล่ขึ้นพ้นผิวดิน 5 ซม.)