กสิกรฯคาดแล้งยาวถึง ก.ค./ศก.เสียหาย1.73หมื่นล้าน/ข้าว-อ้อยราคาขยับขึ้น

    รุงเทพฯ - ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้คาดการณ์สถานการณ์ภัยแล้งในปี 2562 ว่าหากลากยาวต่อเนื่องไปอีก 2 เดือน คือราวเดือน ก.ค.จากที่จะยุติในเดือน พ.ค.ผลกระทบน่าจะอยู่ในวงจำกัด เนื่องจากยังไม่ถึงฤดูกาลเพาะปลูกพืชสำคัญอย่างข้าวนาปี รวมถึงระดับความรุนแรงของภัยแล้งน่าจะลดน้อยลงกว่าช่วงรุนแรงที่สุดเดือน มี.ค.-เม.ย.ผนวกกับฝนที่อาจมีบ้าง แม้จะยังเป็นภาวะฝนทิ้งช่วงเดือน ก.ค.-มิ.ย. ทำให้ภาพรวมของสภาพอากาศต่อจากนี้อีก 2 เดือนข้างหน้าจะยังแห้งแล้ง ซึ่งแม้ผลจากภัยแล้งจะช่วยดันราคาข้าวและอ้อยให้ขยับขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม จะยิ่งซ้ำเติมรายได้เกษตรกรที่เดิมแย่อยู่แล้วให้เผชิญความยากลำบากเพิ่มขึ้นไปอีก ทั้งส่งผลกระทบต่อมูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่อาจเพิ่มขึ้นอีกราวเดือนละ 1,000 ล้านบาท จนอาจประเมินได้ว่า หากภัยแล้งลากยาวไปถึงเดือน ก.ค.อาจทำให้เกิดมูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจรวมที่ราว 17,300 ล้านบาท  

     ทั้งนี้ สัญญาณภัยแล้งในปี 2562 ที่มีความเป็นไปได้ว่าอาจลากยาวไปจนถึงเดือน ก.ค.เมื่อเทียบกับคาดการณ์เดิมที่ภัยแล้งน่าจะสิ้นสุดในเดือน พ.ค.พิจารณาได้จากปริมาณน้ำในเขื่อนที่อยู่ในระดับต่ำ รวมถึงแนวโน้มภาวะฝนทิ้งช่วงในเดือน มิ.ย.-ก.ค.2562 

     หากภัยแล้งลากยาวกินเวลาต่อไปอีก 2 เดือน จะกระทบต่อผลผลิตข้าวนาปรังที่ยังทยอยออกสู่ตลาด และผลผลิตอ้อยที่อยู่ในช่วงการปลูกอ้อยต้นฝน (เขตอาศัยน้ำฝน) ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ราคาข้าวและอ้อยอาจขยับขึ้นได้ในช่วง มิ.ย.-ก.ค.แต่ในแง่ของภาพรวมราคาเฉลี่ยทั้งปี 2562 อาจยังให้ภาพที่หดตัวอยู่ ด้วยปัจจัยด้านการแข่งขันในตลาดโลกที่ยังรุนแรง รวมถึงปริมาณผลผลิตที่อยู่ในระดับสูง โดยคาดว่าภาพรวมราคาข้าวเฉลี่ยอาจอยู่ที่ 10,700-10,800 บาทต่อตัน หรือหดตัวร้อยละ 0.3-1.2 (YoY) ส่วนราคาอ้อยเฉลี่ย อาจอยู่ที่ 700-710 บาทต่อตัน หรือหดตัวร้อยละ 0.4-1.8 (YoY)

     ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ผลจากภัยแล้งหากกินเวลาเพิ่มขึ้นอีก 2 เดือน จะยิ่งส่งผลต่อภาพรวมรายได้เกษตรกรในปี 2562 ให้หดตัวเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ร้อยละ 2.1-2.4 (YoY) เมื่อเทียบกับคาดการณ์เดิมที่หดตัวร้อยละ 1.2-1.6 (YoY)

      อ้างอิง - สำนักข่าวไทย