กรุงเทพฯ 25 เม.ย.-นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนการผลิตและตลาดข้าวครบวงจร (ด้านการผลิต) ว่า ได้กำหนดแผนการผลิตข้าว ปีการผลิต 2562/2563 ตามความต้องการใช้ข้าว พื้นที่ 72.80 ล้านไร่ ผลผลิต 34.62 ล้านตันข้าวเปลือก แบ่งเป็นการผลิตรอบที่ 1 พื้นที่ 59.99 ล้านไร่ ผลผลิต 25.47 ล้านตันข้าวเปลือก และรอบ2 พื้นที่ 13.81 ล้านไร่ ผลผลิต 9.15 ล้านตันข้าวเปลือก

     นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังมีมติเห็นชอบการกำหนดพื้นที่เป้าหมายส่งเสริมการปลูกข้าว ปี 2562/2563 รอบที่ 1 พื้นที่ 59.99 ล้านไร่ แยกเป็นข้าวหอมมะลิ 23.03 ล้านไร่ ข้าวหอมจังหวัด 3.47 ล้านไร่ ข้าวหอมไทย 1.65 ล้านไร่ ข้าวเจ้า 14.01 ล้านไร่ (ข้าวเจ้าพื้นแข็ง 13.86 ล้านไร่ และข้าวเจ้าพื้นนุ่ม 0.15 ล้านไร่) ข้าวเหนียว 16.17 ล้านไร่ และข้าวตลาดเฉพาะ 0.25 ล้านไร่ โดยได้มอบหมายกรมการข้าวนำเสนอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ออกประกาศภายในวันที่ 30 เมษายนนี้

     ทั้งนี้ การพิจารณาดังกล่าวได้มีการวางแผนให้อุปทานสอดคล้องกับอุปสงค์มากที่สุด โดยข้อมูลที่นำมาใช้ในการวางแผนและการกำหนดพื้นที่เป้าหมายส่งเสริมเพาะปลูกข้าว เป็นข้อมูลจากหลายแหล่งทั้งจากฐานข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกร ข้อมูลพยากรณ์พื้นที่ปลูกข้าว ข้อมูลผลการสำรวจพื้นที่ปลูกข้าว รวมทั้งข้อมูลจากการคาดการณ์พื้นที่ปลูกของแต่ละจังหวัด ทั้งนี้ การวางแผนการผลิตยังปรับเปลี่ยนได้ในฤดูการผลิต รอบที่ 2 หากราคาหรือปริมาณความต้องการข้าวและสถานการณ์น้ำที่เปลี่ยนแปลงไป 

     ด้านนายประสงค์ ประไพตระกูล อธิบดีกรมการข้าว กล่าวถึงผลการดำเนินงานภายใต้แผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ปี 2561/2562 รอบที่ 1 มีพื้นที่ปลูกข้าว 59.21 ล้านไร่ ผลผลิต 24.22 ล้านตันข้าวเปลือก และรอบที่ 2 มีพื้นที่ปลูกข้าว 11.32 ล้านไร่ คาดการณ์ผลผลิต 7.57 ล้านตันข้าวเปลือก (ข้อมูลวันที่ 31 มี.ค.62) ค่อนข้างเป็นไปตามแผนการผลิตที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ ในปี 2561/2562 ผลผลิตข้าวโลกคาดจะมีประมาณ 501.57 ล้านตันข้าวสาร เพิ่มขึ้น 6.20 ล้านตัน หรือร้อยละ 1.25 ของปี 2560/2561 ซึ่งมีผลผลิต 495.37 ล้านตันข้าวสาร เนื่องจากผลผลิตข้าวของประเทศผู้ผลิตหลัก ได้แก่ อินเดีย สหรัฐ เวียดนาม และไทย มีปริมาณการผลิตข้าวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอินเดียส่งเสริมขยายพื้นที่เพาะปลูกข้าวเพิ่มมากขึ้น (USDA ณ เดือนมีนาคม 2562) 

     อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ราคาข้าวของไทย แนวโน้มราคาทรงตัว ผู้ประกอบการมีแนวโน้มเสนอราคารับซื้อสูงต่อเนื่อง เพื่อจูงใจให้เกษตรกรนำข้าวที่เข้าร่วมโครงการฝากข้าวออกมาขาย อีกทั้ง ข้าวนาปรังประสบปัญหาภัยแล้ง ทำให้ผู้ประกอบการคาดการณ์ว่าผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง จึงมีความต้องการซื้อต่อเนื่อง ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ของเกษตรกรไทยจะขายข้าวได้ราคาดี