เกษตรฯ ประกาศห้ามทำประมงทะเลอันดามันฤดูวางไข่ 1 เม.ย.-30 มิ.ย.นี้

 

 

         เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 62 นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีประกาศใช้มาตรการการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในฤดูปลามีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวในวัยอ่อน ฝั่งทะเลอันดามัน ประจำปี 2562 ณ ท่าเทียบเรือศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเขต 3 จังหวัดกระบี่ โดยนายลักษณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมง กำหนดมาตรการเพื่อคุ้มครองพันธุ์สัตว์น้ำในฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อนมิให้ถูกทำเลยเกินสมควร

         โดยกำหนดห้ามทำการประมงด้วยเครื่องมือประมงทุกชนิด เว้นแต่เครื่องมือประมงบางชนิดเท่านั้นที่ทำการประมงได้ในพื้นที่ทะเล ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. - 30 มิ.ย.ของทุกปี เนื่องจากมีผลการศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูลปรากฏว่าในช่วงเวลาดังกล่าว บริเวณทะเลอันดามันในเขตท้องที่จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ และตรัง เป็นแหล่งซึ่งสัตว์น้ำบางชนิดมีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวอ่อน จึงต้องมีการควบคุมการประมงและประชาสัมพันธ์ให้ชาวประมงและประชาชนทั่วไปทราบถึงเหตุผลความจำเป็น ระยะเวลา เครื่องมือห้ามทำการประมง ตามพื้นที่ที่กำหนด

 

         "กระทรวงเกษตรฯ มุ่งหวังจะทำให้ทรัพยากรสัตว์น้ำได้มีโอกาสฟื้นฟูกลับมาอุดมสมบูรณ์ ลดความขัดแย้งในการแย่งชิงทรัพยากรในพื้นที่ระหว่างเครื่องมือประมง และให้กลุ่มชาวประมง ประชาชนทั่วไป และหน่วยงานภาครัฐ รับทราบและให้ทำความเข้าใจกับการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในช่วงเวลาที่กำหนด อีกทั้งยังมีความเข้าใจถึงมาตรการในด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรประมงด้วย ซึ่งหากมีการฝ่าฝืนจะต้องโทษตั้งแต่ 5,000 บาท - 30 ล้านบาท ตามขนาดของเรือประมง หรือ 5 เท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่จับได้ และจะถูกริบเครื่องมือทั้งหมด"

         รมช.เกษตรฯ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาชาวประมงทั้ง 4 จังหวัด ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่มีการฝ่าฝืนข้อกำหนด ทำให้ทราบว่าพี่น้องชาวประมงต้องการเห็นความยั่งยื่นของทรัพยากรประมงในอนาคต และในภาพรวมจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า รัฐบาลมีการเพิ่มวันทำการประมงให้กับพี่น้องชาวประมงทั้ง 22 จังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งทะเลฝั่งอันดามันได้มีการเพิ่มวันประมงได้ครบทั้งปี สามารถทำประมงได้ถึง 31 มี.ค. 62 แสดงว่าทรัพยากรสัตว์น้ำหลังจากที่มีมาตรการต่าง ๆ เข้ามาดำเนินการ ทำให้ทรัพยากรสัตว์น้ำได้มีการฟื้นตัว มีการควบคุมการทำประมงให้เกิดความสมดุลกับทรัพยากรสัตว์น้ำ เกิดความยั่งยืนในอาชีพประมงต่อไป

 

 

dogshow