จากผืนดินลูกรังแห้งแล้ง! สู่แหล่งเกษตรกรรมผสมผสาน (ชมคลิป)

      อุทัยธานี - เมื่อเร็วๆนี้ ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าพื้นที่โครงการจัดที่ดินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี พร้อมพบปะหารือผู้นำชุมชนและพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับจัดสรรที่ดินทำกินในโครงการ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้แทนสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Program: UNDP) และมูลนิธิห้วยขาแข้ง เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาส่งเสริมอาชีพและการแก้ไขปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐานของชุมชนในโครงการ 

      สำหรับโครงการจัดที่ดินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ได้ดำเนินการจัดที่ดินมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๘ และอนุญาตให้เกษตรกรเข้าทำประโยชน์แบบแปลงรวมผ่านระบบสหกรณ์ โดยจัดตั้งสหกรณ์ปฏิรูปที่ดินระบำ จำกัด เพื่อเช่าที่ดินจาก ส.ป.ก.เนื้อที่ ๒,๔๒๓-๐-๘๔ ไร่ และจัดให้สมาชิก ๓๙๖ ราย ทำสัญญาเช่าจากสหกรณ์ ซึ่ง ส.ป.ก.ได้ยกเว้นค่าเช่า ๓ ปีแรก พร้อมประสานหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและนอกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมบูรณาการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคที่จำเป็นในพื้นที่โครงการ อาทิ การก่อสร้างถนนสายหลัก-สายรอง และถนนในแปลงเกษตรกรรม ระบบประปาบาดาลสำหรับชุมชนและแปลงเกษตรกรรม การขยายเขตไฟฟ้า การจัดสร้างที่อยู่อาศัยและสำนักงานสหกรณ์พร้อมโกดังเก็บผลผลิตและโรงอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์

      เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวว่า จากความร่วมมือของทุกภาคส่วนทำให้พื้นที่ คทช.ระบำ ได้เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดจากเดิมซึ่งเป็นพื้นที่ดินลูกรัง แห้งแล้ง เต็มไปด้วยตอต้นยูคาลิปตัส พลิกฟื้นกลับมาเป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่อุดมสมบูรณ์และสร้างรายได้ให้เกษตรกรในชุมชน โดย ส.ป.ก.ได้เข้าไปส่งเสริมอาชีพทั้งปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ปลูกพืชผัก ทำเกษตรผสมผสาน เลี้ยงสัตว์ รวมถึงแปรรูปผลผลิต ทดแทนการปลูกพืชเศรษฐกิจเชิงเดี่ยว อาทิ มันสำปะหลัง ซึ่งมีผลตอบแทนสุทธิต่ำ ขณะที่ทำเกษตรอย่างอื่นให้ผลตอบแทนสุทธิที่สูงกว่า โดยเฉพาะทำเกษตรผสมผสาน และปลูกพืชผัก (มะระจีน บวบเหลี่ยม) ที่ให้ผลตอบแทนสุทธิสูงถึงปีละ ๑๐๐,๐๐๐-๑๖๐,๐๐๐ บาท/ครัวเรือน 

     รวมทั้งมูลนิธิห้วยขาแข้ง และ UNDP ยังเข้ามาช่วยแนะนำ ส่งเสริมอาชีพให้เกษตรกรชุมชนชายขอบที่ติดกับพื้นที่เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งปลูกพืชสำหรับใช้เป็นอาหารสัตว์ป่าและเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าหายาก อาทิ ไก่ฟ้า เพื่อขายคืนให้กับมูลนิธิอีกด้วย แม้ว่าพื้นที่โครงการจะมีแหล่งน้ำเพียงพอต่อการเพาะปลูก แต่ยังพบว่ามีปัญหาด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในแปลงเกษตรกรรม เช่น ระบบการสูบและกระจายน้ำ เนื่องจากเกษตรกรส่วนใหญ่เป็นผู้ยากไร้ขาดเงินทุนและบางส่วนยังขาดความรู้ ความชำนาญ และทักษะในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ซึ่ง ส.ป.ก.จะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาฝึกอบรมให้ความรู้ที่จำเป็นเพิ่มเติมกับเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง

     ทั้งนี้ การพัฒนาอาชีพให้เกษตรกรในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดิน สามารถอยู่รอด อยู่ดี มีสุข และมีรายได้อย่างยั่งยืน เป็นความท้าทายสำคัญในการดำเนินงานของ ส.ป.ก.และเพื่อผลสัมฤทธิ์ของเป้าหมาย ส.ป.ก.จะได้ยึดถือแนวทางการบูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ อย่างเป็นเอกภาพเช่นที่ผ่านมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป

     อ้างอิงข้อมูล ภาพ คลิปวีดีโอ : www.alro.go.th/alro_th/ewt_news.phpnid=8518& filename=index สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ,รายการเจาะเฉพาะกิจ สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT ทีวีดิจิตอล ช่อง 2,รายการเดินหน้าประเทศไทย