เกษตรฯ คิกออฟ 462 สหกรณ์ผลิตปุ๋ยขายราคาถูก

         ที่โรงแรมปริ๊นซ์พาเลซ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2562 นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบนโยบายในการประชุมชี้แจงแนวทางการส่งเสริมการลดต้นทุนการผลิตผ่านสถาบันเกษตรกร ภายใต้โครงการปุ๋ยผสมใช้เองผ่านสหกรณ์การเกษตรเพื่อลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกร เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยผสมเองที่มีธาตุอาหารพืชที่เหมาะสมตามค่าวิเคราะห์ดินแต่ละพื้นที่ และตรงกับความต้องการของพืชแต่ละชนิด โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม ได้แก่ สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ 462 แห่ง จำนวน 900 คน
         นายกฤษฎา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ หาวิธีลดต้นทุนปัจจัยการผลิตเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร โดยจะต้องเร่งรัดจัดหาปุ๋ยให้เกษตรกรใช้ราคาถูกลงร้อยละ 30 ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำโครงการปุ๋ยผสมใช้เองผ่านสหกรณ์การเกษตร โดยให้สหกรณ์การเกษตรในระดับอำเภอผลิตปุ๋ยที่มีคุณภาพและจำหน่ายในราคาที่เป็นธรรม กำหนดให้ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด เป็นหน่วยงานกลางสั่งซื้อแม่ปุ๋ยจากบริษัทนำเข้าราคาถูกกว่าราคาตลาดแล้วกระจายต่อให้สหกรณ์การเกษตรแต่ละจังหวัด เพื่อนำแม่ปุ๋ยซึ่งเป็นปุ๋ยที่มีธาตุอาหารหลักพืช คือ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม หรือ  N P K สูตรเข้มข้นเป็นวัตถุดิบเพื่อนำไปผสมและผลิตปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินหรือสูตรที่เกษตรกรต้องการใช้เพื่อจำหน่ายให้แก่สมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรทั่วไป


         นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้กรมพัฒนาที่ดินทำงานร่วมช่วยวิเคราะห์ข้อมูลดินแต่ละพื้นที่ เพื่อกำหนดสูตรปุ๋ยที่มีแร่ธาตุเหมาะสมกับสภาพดินให้สหกรณ์นำไปผลิต กรมส่งเสริมการเกษตรจะจัดเวทีให้ความรู้แก่เกษตรกรถึงข้อดีผลิตปุ๋ยใช้เอง ซึ่งจะมีธาตุอาหารเหมาะสมกับการปลูกพืชแต่ละชนิด และส่งผลต่อคุณภาพผลผลิตและบำรุงดินไม่ให้เสื่อมโทรม ส่วนกรมวิชาการเกษตรจะคอยให้คำแนะนำตามหลักวิชาการการผสมปุ๋ยเพื่อให้ได้ปุ๋ยที่มีคุณภาพมาตรฐาน และจะมีการตรวจสอบปุ๋ยที่สหกรณ์ผลิตขึ้น ก่อนจะออกใบอนุญาตผลิตและจำหน่ายปุ๋ยให้กับสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรที่จะเลือกซื้อไปใช้ สำหรับเงินทุนผลิตปุ๋ยนั้น ขณะนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้จัดสรรวงเงินสินเชื่อ 1,300 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนสหกรณ์กู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ร้อยละ 2 และ ธ.ก.ส.รับภาระดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี
         ขณะที่ นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ได้ให้สหกรณ์จังหวัดทุกจังหวัด แจ้งรายละเอียดของโครงการนี้ไปยังสหกรณ์ต่าง ๆ และมีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรสมัครเข้าร่วมโครงการ 462 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้มีสหกรณ์ 242 แห่ง แจ้งปริมาณความต้องการแม่ปุ๋ย 67,609.55 ตัน เพื่อนำไปผลิตปุ๋ยผสมใช้เองจำหน่ายให้กับแก่สมาชิกและเกษตรกรทั่วไป 161,462 ราย หากเกษตรกรปรับเปลี่ยนมาใช้ปุ๋ยที่มาจากค่าวิเคราะห์ดินที่เหมาะสม คาดว่าจะสามารถลดต้นทุนปัจจัย การผลิตปุ๋ยให้กับเกษตรกรได้ประมาณปีละ 2,000 บาท/ตัน และสามารถลดต้นทุนจากการใช้ปุ๋ยผสมใช้เองของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 228.38 ล้านบาท