สกส. เปิดตัว "แจ่วบองสมุนไพร-ผ้ามัดหมี่" ของดีกลุ่มสตรีหนองบัวลำภู (ชมคลิป)

          "สำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี" พาสื่อบุก "หนองบัวลำภู" เกาะติดภารกิจส่งเสริมศักยภาพและบทบาทผู้หญิงผ่าน "กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี" พร้อมเปิดตัว 2 กลุ่มตัวอย่างพลังผู้หญิง "กลุ่มแจ่วบองสมุนไพร" บ้านศรีวิไล และ "กลุ่มทอผ้ามัดหมี่" บ้านห้วยทราย ที่โชว์ความสามารถการบริหารจัดการและพัฒนาสินค้ากระทั่งได้รับการยอมรับ สามารถสร้างงาน - สร้างรายได้ให้สมาชิกเกินกว่าเท่าตัว ผอ.สกส.ย้ำ พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนภารกิจเป็นแหล่งทุนให้สมาชิก เพื่อพัฒนาบทบาทสตรี - สร้างความเข้มแข็งให้สตรีทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง

         เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน 2561 สำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี (สกส.) ได้จัดกิจกรรม "Inside Product By Thai Womenfund สัญจร" ภายใต้โครงการเสริมสร้างภาพลักษณ์กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีด้วยการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ โดยนำสื่อมวลชนลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานขององค์กรสมาชิกในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ได้แก่ กลุ่มทอผ้ามัดหมี่ บ้านห้วยทราย ตำบลหนองบัว อำเภอหนองลำภู และ กลุ่มแจ่วบองสมุนไพร บ้านศรีวิไล ตำบลฝั่งแดง อำเภอนากลาง

         กลุ่มทอผ้ามัดหมี่ บ้านห้วยทราย ปัจจุบันมี นางหนูส่วน ภาภักดี เป็นประธาน สมาชิกจำนวน 15 คน ได้รับงบประมาณสนับสนุนประเภทงบทุนหมุนเวียน 120,000 บาท เพื่อนำไปจัดซื้อวัตถุดิบ เช่น เส้นไหม สีย้อม สีฟอก ฯลฯ มาดำเนินการตามกระบวนการ ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ที่สำคัญ คือ ผ้าฝ้าย ผ้ามัดหมี่ กระเป๋าสะพาย ผ้าคลุมไหล่ วางขายทั้งภายในที่ทำการกลุ่ม รวมถึงร้านค้าในจังหวัดและต่างจังหวัด ทำให้สมาชิกมีรายได้สูงถึง 8,000 บาท/เดือน/คน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีรายได้เพียงคนละ 3,000 บาท/เดือนเท่านั้น

         ส่วนกลุ่มแจ่วบองสมุนไพร บ้านศรีวิไล ปัจจุบันมี นางสมจิตร สามา เป็นประธาน สมาชิกจำนวน 25 คน ได้รับงบประมาณสนับสนุนประเภทงบทุนหมุนเวียน 72,500 บาท เพื่อนำไปจัดซื้อวัตถุดิบและอุปกรณ์การผลิต เช่น ปลาร้า หัวหอม กะเทียม มีด ช้อน เขียง กะละมัง และบรรจุภัณฑ์ โดยแจ่วบองสมุนไพร บ้านศรีวิไล ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อ มีการวางจำหน่ายทั้งตลาดในชุมชน อำเภอ รวมถึงร้านค้าในจังหวัดและต่างจังหวัด ซึ่งส่งผลให้สมาชิกมีรายได้เฉลี่ย 5,000 บาท/เดือน/คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีรายได้เพียง 2,000 บาท/เดือน/คนเท่านั้น



         นายปรีชา กิตติสัตยกุล ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้ทั้ง 2 กลุ่มประสบความสำเร็จ คือ มีการบริหารจัดการที่ดี สมาชิกมีส่วนร่วมในการบริหาร จัดการเพื่อให้ทุกคนรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ร่วมกัน มีการรักษามาตรฐานและคุณภาพการผลิต มีเครือข่ายการตลาด ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้า รวมทั้งมีเงินทุนหมุนเวียนที่เพียงพอ และมีระบบการดูแลและควบคุมทางการเงินที่เข้มแข็ง รวมถึงสมาชิกมีความขยันหมั่นเพียร ซึ่งถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่ทำให้ สังคมได้เห็นถึงศักยภาพและพลังความสามารถของสตรี โดยกองทุนพัฒนาบทบาทสตรียืนยันจะเดินหน้าขับเคลื่อนภารกิจ เพื่อส่งเสริมศักยภาพและบทบาทของสตรีในทุกด้านอย่างเต็มความสามารถต่อไป

         ทั้งนี้ กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เป็นกองทุนเพื่อให้สตรีได้เข้าถึงแหล่งทุนหรือเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ วงเงินสูงสุดโครงการละ 200,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี นำไปประกอบอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ หรือพัฒนาอาชีพ โดยเริ่มต้นจากการรวมกลุ่มของสตรี บริหารจัดการด้วยสตรี สตรีมีความสุข และสตรีมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งในปีงบประมาณ 2562 กองทุนฯ ได้รับการจัดสรรงบประมาณประเภทเงินทุนหมุนเวียน 1,478,000,000 บาท และประเภทเงินอุดหนุน 295,000,000 บาท แก่กลุ่มสตรีทั่วประเทศ โดยคาดว่าจะเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้สมาชิกและครอบครัวได้เฉลี่ย 7,000-10,000 บาท

         จ.หนองบัวลำภู มีสมาชิกกองทุนในประเภทบุคคลธรรมดา จำนวน 121,834 คน และสมาชิกประเภทองค์กรสตรี จำนวน 538 องค์กร ซึ่งในปีงบประมาณ 2561 ได้อนุมัติ ทุนหมุนเวียน 12,000,000 บาท ให้สมาชิกกองทุนฯ จำนวน 88 โครงการ เป็นจำนวนเงิน 11,987,725 บาท อนุมัติเงินอุดหนุนให้องค์กรสตรี จำนวน 120 โครงการ เป็นจำนวนเงิน 3,00,000 บาท ซึ่งช่วยส่งผลให้สมาชิก ในพื้นที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทั้งในด้านเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ รายได้การพัฒนาศักยภาพและบทบาทสตรี และการยอมรับจากสังคม

         สำหรับการเดินทางไปจัดกิจกรรมที่ จ.หนองบัวลำภู ในครั้งนี้ ยังได้มีการจัดเวทีเสวนา "Inside Product By Thai Womenfund สัญจร" เพื่อชี้แจงและแลกเปลี่ยนในประเด็นการขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีใน จ.หนองบัวลำภู โดยผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชนและพัฒนาการจังหวัดอีกด้วย