ข้าวหอมไทยเสียแชมป์ คว้าอันดับ2 : ประกวดข้าวโลก ปี 2018 ที่เวียดนาม

 

      รุงเทพฯ - นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีที่มีการประกวดข้าวโลกปี 2018 ในการประชุมสัมมนาข้าวโลก (World Rice Conference2018) ณ ประเทศเวียดนาม ซึ่งผลการประกวดปรากฎว่าข้าวหอมมะลิกัมพูชามาลีอังกอร์ ได้อันดับ 1 ในขณะที่ข้าวหอมมะลิไทยได้อันดับ 2 และข้าวหอมมะลิเวียดนามพันธุ์ ST24 ได้อันดับ 3 ว่า การประกวดดังกล่าวเริ่มปี 2552 ที่เมืองเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งครั้งนั้นข้าวหอมมะลิของไทยคว้าอันดับ 1 จากนั้นก็ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนการจัดงานต่อเนื่องทุกปี ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 10 โดยที่ผ่านมาข้าวหอมมะลิไทยได้รับรางวัลอันดับ 1 จำนวน 5 ครั้ง และผลัดกันได้รางวัลกับกัมพูชา และสหรัฐอเมริกามาตลอด ซึ่งปีนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ข้าวหอมมะลิไทยได้อันดับ 2

      รัฐมนตรีเกษตรฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า นโยบายของกระทรวงเกษตรฯ ในขณะนี้ เน้นการดูแลรักษาระดับราคาข้าวไทยให้ราคาขายต้องไม่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตเพื่อให้ชาวนาไทยมีรายได้เพียงพอต่อการใช้จ่ายควบคู่ไปกับสนับสนุนการทำเกษตรอย่างอื่นในพื้นที่นาที่ไม่เหมาะสม หรือในพื้นที่ผลิตข้าวส่วนเกินความต้องการของตลาดไปปลูกพืชอื่นๆ หรือทำการเกษตรกรรมอย่างอื่นที่มีรายได้มากกว่าหรือเท่ากับการปลูกข้าวเพื่อรักษาปริมาณผลผลิตข้าวไทยไม่ให้ล้นตลาด (Over Supply) ซึ่งจะทำให้ราคาข้าวตกต่ำเป็นปัญหาให้ชาวนามาร้องเรียนขอรับความช่วยเหลือจากทางราชการด้วยโครงการใช้งบประมาณจำนวนมากๆ เหมือนในอดีตที่ผ่านมา

       อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายนโยบายเน้นย้ำให้กรมการข้าว และกรมวิชาการเกษตรให้ศึกษา วิจัยข้าวไทยอยู่เป็นระยะๆ เพื่อนำผลสรุปของการศึกษาวิจัยมาปรับปรุงพันธุ์ข้าวไทย และการบำรุงรักษาคุณภาพให้ได้รับความนิยมจากตลาดและผู้บริโภคไว้ด้วย

 

       ทั้งนี้ รายงานจากเว็บไซต์ khmertimeskh เผยว่า ข้าวหอมมะลิกัมพูชา “อังกอร์” คว้ารางวัลอันดับ 1 ของข้าวที่ดีที่สุดในโลก ในงาน TRT World Rice Conference 2018 โดย The Rice Trader ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ค้าระดับนานาชาติ จัดขึ้น เมื่อวันที่ 10-12 ตุลาคม 2561 ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ซึ่งการประกาศผลครั้งนี้ ทำให้“อังกอร์”ข้าวหอมมะลิจากกัมพูชา คว้าอันดับ 1 ไปครองเป็นครั้งที่ 4 (ปี 2012,2013,2014 และ 2018)

       “ข้าวอังกอร์”คือข้าวหอมมะลิกัมพูชา เป็นข้าวพันธุ์พื้นเมืองมีจุดแข็งคือ กลิ่นหอม เหนียวนุ่ม เป็นที่นิยมของชาวจีน แต่จุดอ่อนคือ หากปล่อยไว้ในอุณหภูมิปกติราว 10 นาที จะเหนียวและแข็ง ต้องกินตอนที่ร้อนเท่านั้น โดยคุณสมบัติข้อนี้ยังเป็นรองข้าวหอมไทย

       ระบบการเกษตรกัมพูชา ทำนาปีละ 1 ครั้ง เกษตรกรใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ โดยยังใช้พื้นที่ทำเกษตรไม่เต็มศักยภาพเพราะประชากรน้อย ยังอาศัยแรงคนมากกว่าเครื่องจักร แต่หากพัฒนาระบบการเกษตรจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของไทย

       สภาข้าวกัมพูชา เปิดเผยว่า การที่กัมพูชาคว้าอันดับ 1 ข้าวที่ดีที่สุดในโลกมาครองในครั้งนี้ เป็นผลมาจากความพยายามที่จะทำให้เมล็ดพันธุ์มีความสะอาด เพื่อขยายการปลูกข้าว และมีเมล็ดพันธุ์คุณภาพ เหล่านี้จึงทำให้กัมพูชามีข้าวเปลือกที่ดี รวมถึงรสชาติที่ถูกปากผู้บริโภคมากขึ้นกว่าเดิม

      “สภาพแวดล้อมของกัมพูชาเกื้อหนุนต่อภาคการเกษตร โดยเฉพาะการเพาะปลูกข้าวที่เติบโตอย่างมาก โดยรางวัล The World Best Rice Award จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับประเทศ เพิ่มมูลค่าข้าวกัมพูชาและเป็นโอกาสที่จะส่งเสริมข้าวหอมมะลิอังกอร์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น”

       ทั้งนี้ ข้าวหอมมะลิของไทยสามารถคว้ารางวัลข้าวชนะเลิศ เป็นเวลา 2 ปีติดต่อกัน (2016,2017) ก่อนในปี 2018 จะมาเสียแชมป์ให้กับกัมพูชาในที่สุด

       ขอบคุณที่มา: https://www.tnews.co.th/contents/481226,