"ฝนหลวง" ช่วยนาข้าว อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ รอดแล้วกว่า 5 หมื่นไร่

         กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่ปลูกข้าว อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ และพื้นที่การเกษตรที่ต้องการน้ำประสบความสำเร็จต่อเนื่อง โดยระมัดระวังและหลีกเลี่ยงพื้นที่การเกษตรที่กำลังเก็บเกี่ยว และยังคงเติมน้ำในอ่างเก็บน้ำและเขื่อนที่มีความต้องการ เพื่อรองรับการอุปโภคบริโภคและการเกษตรให้มากที่สุด
         เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 61 นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวถึงการติดตามสถานการณ์พื้นที่การเกษตรในหลายภูมิภาคของประเทศ ว่า ยังคงมีพื้นที่การเกษตรที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำสำหรับพืชที่กำลังอยู่ในระยะเติบโตหลายพื้นที่ โดยเฉพาะทางภาคเหนือบริเวณตำบลนาอินและนายาง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ มีเกษตรกรขอรับบริการฝนหลวง เข้ามาผ่านทางเกษตรอำเภอ
         เจ้าหน้าที่จึงได้ลงพื้นที่สำรวจพบว่าบริเวณดังกล่าวกำลังปลูกข้าวจำนวนกว่า 50,000 ไร่ เป็นบริเวณพื้นที่ดอนอับฝน มีฝนตกน้อย และอยู่นอกเขตชลประทาน จึงทำให้มีน้ำไม่เพียงพอสำหรับการเจริญเติบโตของข้าวในระยะตั้งท้องที่คาดว่าจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ในช่วงเดือน พ.ย. - ธ.ค. เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งปฏิบัติการช่วยเหลือทันทีเมื่อสภาพอากาศเอื้ออำนวย เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ทำให้มีฝนตกในพื้นที่ ปลูกข้าว วัดปริมาณน้ำฝนได้ 33 มิลลิเมตร ซึ่งสามารถช่วยหล่อเลี้ยงต้นข้าวให้เจริญเติบโตได้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง
         "ขณะเดียวกัน กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังสามารถช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ร้องขอฝนบริเวณจังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม หนองบัวลำภู ชัยภูมิ เลย นครราชสีมา บุรีรัมย์ สระบุรี ลพบุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และสระแก้ว โดยในภาพรวมของการปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. - 21 ต.ค. ที่ผ่านมา มีพื้นที่ที่ได้รับการช่วยเหลือ จำนวนทั้งสิ้น 137.57 ล้านไร่" นายสุรสีห์ กล่าว

         อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เผยอีกว่า ด้านการปฏิบัติการฝนหลวงเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับเขื่อนและอ่างเก็บน้ำต่างๆ ที่มีความต้องการนั้น กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังให้ความสำคัญและเร่งทำฝนตามแผนปฏิบัติการที่ได้มีการขยายเวลาไปจนถึงกลางเดือน พ.ย.นี้ โดยจะช่วยเหลืออ่างเก็บน้ำที่มียังมีปริมาณน้ำเก็บกักน้อย เช่น อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำลาด อ่างเก็บน้ำคลองโพธิ์ จังหวัดนครสวรรค์ อ่างเก็บน้ำ ลำมูลบน จังหวัดนครราชสีมา อ่างเก็บน้ำห้วยยาง จังหวัดสระแก้ว เป็นต้น รวมถึงอ่างเก็บน้ำและเขื่อนอื่นๆ ก็จะเร่งปฏิบัติการเพื่อให้มีปริมาณน้ำเก็บกักรองรับฤดูแล้งให้มากที่สุดเช่นกัน
         ทั้งนี้ ผลการปฏิบัติการเพิ่มปริมาณ ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. - 20 ต.ค. 61 มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ จำนวน 121.612 ล้าน ลบ.ม. จากแผนคาดการณ์ 155 ล้าน ลบ.ม. อย่างไรก็ตาม เกษตรกรและประชาชนสามารถแจ้งขอรับบริการฝนหลวงได้ที่ ตัวแทนอาสาสมัครฝนหลวงในแต่ละพื้นที่หรือแจ้งกับเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย/ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทั้ง 5 ภูมิภาค และสามารถติดตามข่าวสารได้ทาง www.royalrain.go.th เพจ Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร และการรายงานข่าวปฏิบัติการฝนหลวงประจำวันทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย