รับมือสถานการณ์น้ำ เตรียมเปิดศูนย์เฉพาะกิจ 24 ช.ม.

         นายสมกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำของประเทศ ว่า ล่าสุดอยู่ในระดับสีเหลือง หรือ เตรียมการเฝ้าระวัง เนื่องจากคาดว่าในช่วงกลางเดือน ส.ค.นี้ จะมีพายุเข้ามายังประเทศไทยอีกลูก ซึ่งอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 11 แห่ง มีสองแห่งสถานการณ์น้ำน่าเป็นห่วง คือ อ่างเก็บน้ำอูน จ.สกลนคร และอ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ที่มีปริมาณน้ำมากกว่า ร้อยละ 80 ของความจุ จึงมีต้องมีการพร่องน้ำตามเกณฑ์ภายใน 5 วัน พร้อมแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. ก่อน 3 วัน ขณะที่ อ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีมากกว่า 30 แห่ง อยู่ในการดูแลของกรมชลประทาน และอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กที่มีมากกว่า 1 พันแห่ง มอบมายให้ส่วนท้องถิ่นตรวจสอบความแข็งแรง และเฝ้าระวังปริมาณน้ำ
         "ปีนี้ปริมาณน้ำในบางพื้นที่สูงกว่า ปี 2554 อาทิ เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ แต่ยังสามารถบริหารจัดการน้ำได้ ถ้ามีการพร่องน้ำก็ได้ประกาศให้ทราบกันล่วงหน้า ส่วนปริมาณน้ำในแม่น้ำโขง คาดว่าจะทยอยเพิ่มขึ้นในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง บริเวณ จ.เลย หนองคาย นครพนม มุกดาหาร จึงต้องเร่งประสานแผนการระบายน้ำจาก สปป.ลาว และจีน เพื่อที่เราจะได้เตรียมการรับมือล่วงหน้า 1 สัปดาห์"
         อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะเปิดศูนย์เฉพาะกิจร่วมที่เปิดทำการ 24 ชั่วโมง เพื่อติดตามสถานการณ์และบริหารจัดการน้ำทั่วประเทศ เริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (3 ส.ค.61) โดยมีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานเข้าร่วม มีอำนาจในการตัดสินใจเกี่ยวกับการพร่องน้ำ และการจัดการน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชน ศูนย์นี้จะทำงานอย่างรวดเร็ว ประมวลผลเป็นข้อมูลชุดเดียวกัน ใช้กับทุกหน่วยงาน โดยอำนาจการตัดสินใจอยู่ที่ พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ที่จะสั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง