ปลูก "ข่า" ช่วยกำจัดแมลงศัตรูพืช

         ข่า เครื่องเทศที่มีความนิยมสูงในการนำมาปรุงอาหารหลากหลายเมนู พืชชนิดนี้มีความพิเศษตรงที่ทนความแล้ง ต้านทานโรคได้ดี ปลูกและดูแลง่าย สามารถปลูกข่าแซมหรือปลูกดักทิศทางแมลง ช่วยลดการเข้าทำลายของแมลงในพืชผลอื่นๆ ได้ด้วย
         ข่ามีสรรพคุณมากมาย แต่ถ้าจะพูดถึงการนำมาใช้เป็นสมุนไพรป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืชอย่าง "แมลงวันทอง" ก็มีสูตรดังนี้
         วิธี 1. นำเหง้าของข่าตำ 200 กรัม เมล็ดสะเดา 200 กรัม ตะไคร้หอม 200 กรัม แช่ผสมกันในน้ำ 20 ลิตร สารสกัดที่ได้ 1 ลิตร ผสมน้ำ 1 ปี๊บ ฉีดฆ่าแมลงศัตรูพืช
         วิธี 2. ตำข่าแก่ 1 กิโลกรัม แช่ในน้ำ  20  ลิตร  นาน  1  คืน  นำน้ำที่ได้ไปฉีดพ่น โดยฉีดทุกๆ  5  วัน เพื่อป้องกันแมลงวันทองมาวางไข่



         สำหรับเกษตรกรที่ต้องการปลูกข่าเป็นพืชเศรษฐกิจ มีวิธีการปลูกดังนี้

         การเตรียมดิน
         ข่าตาแดง เป็นพืชที่ชอบดินร่วนซุย ชอบดินชื้น แต่ไม่ชอบแฉะหรือน้ำขัง หากพื้นที่ใดน้ำขังก็ต้องทำพื้นที่ให้เรียบเสมอกัน จากนั้นไถดะแล้วไถแปร ไถเปิดหน้าดินอย่างน้อย 50 เซนติเมตร โรยปุ๋ยขี้ไก่แกลบลงไปไร่ละประมาณ 1,000 กิโลกรัม หรือ ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอก เพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุให้กับดิน แล้วไถกลบ เตรียมตากดินไว้ 7 วัน คลุมหน้าดินด้วยฟางข้าวประมาณ 100 ก้อน/ไร่ เพื่อเป็นการป้องกันหญ้าไม่ให้เกิดขึ้น หรือใช้จอบขุดเป็นแปลงเล็กๆ หรือขุดหลุมแล้วคลุกดินด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก

         การเตรียมต้นพันธุ์
         ปลูกโดยใช้ต้นพันธุ์ เลือกอายุ 8 เดือนถึง 1 ปีครึ่ง ซึ่งเหมาะในการนำมาปลูก แตกแขนงดี แข็งแรง และมีตามาก รากงอกง่าย นำข่าที่ได้มาแยกแง่ง ตัดใบและรากรวมถึงส่วนที่เน่าหรือช้ำ ออกให้หมด แล้วล้างให้สะอาด จากนั้นนำต้นพันธุ์ที่เตรียมแล้ว ไปแช่น้ำยาเร่งรากและน้ำยากันเชื้อรา ประมาณ 20 นาที ถ้าเหง้าไหนใหญ่เกินไปก็ตัดแบ่งออก บริเวณรอยแผลที่ตัดให้ทาด้วยปูนกินหมากตรงแผลจะช่วยป้องกันเชื้อราได้ จากนั้นนำไปเพาะชำในวัสดุปลูกชนิดอ่อน เช่น แกลบ หรือ ขุยมะพร้าว แล้วรดน้ำให้ชุ่ม เป็นเวลา 10-15 วัน รอรากงอกและแทงยอดออกมาใหม่ประมาณ 10-15 วัน เพื่อเพิ่มอัตราการรอดแล้วค่อยนำไปปลูกลงดิน หากท่านใดไม่อยากรอก็สามารถนำเหง้าข่าที่แช่น้ำยาแล้ว ลงปักดินปลูกได้ทันที
         ปลูกข่าเป็นกอ นำข่าที่ได้มาตัดให้ได้ความยาว 30 เซนติเมตร แล้วนำไปปลูกในแปลงที่เตรียมไว้

         การปลูกข่าให้ได้ผลดี
         ขุดหลุมให้ลึกประมาณ 10 เซนติเมตรและกว้าง 30 เซนติเมตร แล้วอาจจะรองก้นหลุมด้วยใบสะเดา ยาสูบหั่นฝอย หรือพืชที่มีกลิ่นฉุนเพื่อดักทางแมลงหรือหนอน แล้วตามด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก (หลีกเลี่ยงการใช้มูลวัวเพราะง่ายต่อการแพร่ของหนอนกอ) สำหรับการรองก้นหลุมแล้วจึงกลบดินถมให้ลึกประมาณ 20 – 25 เซนติเมตร ปักต้นข่า 1-3 ต้น ลงหลุมปลูก โดยให้ตาของหน่อข่าชี้ขึ้นด้านบน ทิ้งระยะห่างระหว่างกอที่ปลูก 60 เซนติเมตร – 1.2 เมตร แล้วคลุมด้วยฟางหรือวัสดุที่เหลือใช้ในครัวเรือนเพื่อป้องกันการระเหยของน้ำจากการถูกแดดเผา



         การดูแลรักษาหลังการปลูก
         ใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยชีวภาพทำเอง เช่น จากการหมักผักตบชวากับมูลไก่และแกลบ หรือจากวัสดุอื่นที่หาเองได้ โดยใส่บริเวณโคนห่างต้น 5-10 เซนติเมตร (รากฝอยจะค่อยๆแผ่ขยายออกมาหาอาหารกิน) อย่างน้อยเดือนละครั้งโดยใช้ปริมาณตามความเหมาะสมในสัดส่วนที่ปลูก รดน้ำ 2-4 ครั้ง ต่อเดือน เพียงพอชุ่มชื้น โดยสังเกตความชื้นในดินไม่ให้แฉะหรือน้ำขัง

         การขุดข่าบรรจุถุง
         ขุดหัวข่าขึ้นมา ทำการตัด 10-12 เซนติเมตร จากนั้นใช้สายยางฉีดน้ำล้างดินออกให้หมด เอาลงแช่น้ำสะอาด หากใช้น้ำผสมสารส้ม (น้ำสะอาด 100 ลิตร ใส่สารส้ม 1 ก้อนเท่าไข่ไก่) จะช่วยให้ข่าสดอยู่ได้หลายวัน จากนั้นบรรจุลงถุง ชั่งน้ำหนักต่อถุงให้เท่ากันแล้วทำการจดบันทึก เตรียมส่งจำหน่ายต่อไป