"พาณิชย์" ผนึกภาครัฐและเอกชนระบายลำไยภาคเหนือปี 61

         นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงมาตรการบริหารจัดการลำไยในภาคเหนือปีนี้ ว่า จะผลักดันลำไยผลสดออกสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะอินเดีย รัสเซีย ยุโรป และตลาดที่มีคนเอเชียอยู่ รวมทั้งกระจายลำไยออกนอกจังหวัดแหล่งผลิตเป้าหมาย 5,000 ตัน ผ่านตลาดประชารัฐ โมเดิร์นเทรด สถานีบริการน้ำมัน ปตท. บางจาก และไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศ ซึ่งจะเริ่มส่งตั้งแต่ 23 กรกฎาคมนี้ ขณะเดียวกันยังสนับสนุนการแปรรูปลำไย เพื่อเพิ่มมูลค่าโดยต่อยอดการใช้นวัตกรรม พร้อมรณรงค์และประชาสัมพันธ์การบริโภคลำไย ซึ่งเบื้องต้นได้ประสานกับกระทรวงมหาดไทยเชื่อมโยงตลาดและจัดพื้นที่จำหน่ายทั่วประเทศแล้ว
         สำหรับมาตรการห้ามนำเข้าลำไยของอินโดนีเซียในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมนี้ ไทยสามารถใช้ความตกลงเอฟทีเอมองหาตลาดส่งออกอื่นๆ นอกเหนือจากอินโดนีเซีย โดยมอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเร่งเปิดตลาดลำไย ปัจจุบันไทยมีเอฟทีเอรวม 12 ฉบับกับคู่ภาคีรวม 17 ประเทศ และทุกฉบับได้ลดภาษีสินค้าลำไยและผลิตภัณฑ์ให้ไทยแล้ว มีเพียงความตกลงไทย-อินเดีย ที่อินเดียยกเลิกภาษีให้เพียงสินค้าลำไยสดเท่านั้น ขณะที่คู่ภาคีส่วนใหญ่ได้ยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าลำไยและผลิตภัณฑ์ให้ไทยแล้ว เช่น ประเทศคู่ค้าสำคัญอย่างจีนและญี่ปุ่น รวมทั้งอาเซียน ยกเว้น สปป.ลาว ตอนนี้ไทยสามารถส่งลำไยไปขายในประเทศอาเซียน จีนและญี่ปุ่น โดยไม่ต้องเสียภาษี
         ขณะที่ นายสมหมาย คำมาสาร ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเสริมว่า การที่กระทรวงพาณิชย์ออกมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาลำไยได้รวดเร็วมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ระดับราคาผลผลิตลำไยปรับตัวสูงขึ้นกว่าปีก่อน กิโลกรัมละ 12 บาท ทำให้มีกำไรจากต้นทุนการผลิตกิโลกรัมละ 14 บาท