คุมเข้มระบายข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม ย้ำไม่ให้รั่วไหลสู่ตลาดปกติ

         นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ ในการประชุมคณะอนุกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายข้าวสารในสต็อกของรัฐ พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ได้กำชับให้ องค์การคลังสินค้า (อคส.) และ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ดำเนินมาตรการควบคุมการนำข้าวในสต็อกของรัฐบาลเข้าสู่อุตสาหกรรมอย่างเข้มงวดและรัดกุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การทำสัญญาซื้อขายข้าว การขนย้ายข้าว และนำข้าวไปใช้ในกระบวนการผลิตตามที่ ผู้ซื้อได้เสนอแผนไว้ หากตรวจพบผู้ซื้อไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญา โดยนำข้าวไปใช้ผิดวัตถุประสงค์จากที่ได้แจ้งรับรองไว้ทั้ง 2 หน่วยงานในฐานะคู่สัญญา ฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งทางแพ่งและทางอาญาตามอำนาจหน้าที่ให้แล้วเสร็จโดยเร็วภายในกำหนดอายุความของคดีนั้น ๆ รวมไปถึงให้การกำกับดูแลข้าวที่รัฐได้ระบายเข้าสู่อุตสาหกรรมในปี 2561 ที่อยู่ระหว่างการทำสัญญาปริมาณรวม 1.96 ล้านตัน
         ส่วนกรณีตรวจพบข้อพิรุธ ผู้ชนะการประมูลซื้อข้าวเสื่อม หรือข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมในสต็อกรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้นำข้าวดังกล่าวไปใช้ในอุตสาหกรรมตามแผนที่ได้แจ้งไว้ รวมถึงกรณี บริษัท วี ออร์แกนนิก จ.กำแพงเพชร นำข้าวไปผลิตเป็นสารปรับปรุงคุณภาพดิน ไม่เป็นไปตามหนังสือรับรองการนำข้าวไปใช้ในอุตสาหกรรมที่รับรองว่าจะนำไปผลิตปุ๋ยนั้น อคส.ได้กล่าวโทษร้องทุกข์บริษัท และขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร ได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งสำนวนสั่งฟ้องบริษัทให้กับพนักงานอัยการจังหวัดกำแพงเพชรแล้วในความผิดฐานร่วมกันขนย้ายข้าวสารในสต็อกของรัฐ ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ผู้อื่น และแจ้งความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน โดย อคส.จะดำเนินการเรียกร้องค่า เสียหาย ค่าปรับ รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่างๆ จากบริษัท ตามสัญญาต่อไป
         นอกจากนี้ ยังตรวจพบข้อพิรุธการขนย้ายข้าวสารที่ จ.สระแก้ว ซึ่งตำรวจได้จับรถบรรทุกพ่วงข้าวสาร 7 คันที่ไม่มีหนังสือกำกับการขนย้ายข้าว โดยสันนิษฐานว่าได้ลักลอบขนข้าวในสต๊อกของรัฐ ขณะนี้คนขับรถบรรทุกทั้ง 7 คนได้ถูกดำเนินคดีในข้อหาขนย้ายข้าวสารโดยไม่ได้รับอนุญาต และศาลได้มีคำพิพากษาตัดสินโทษแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม