เผยเจ้าของเครื่องสูบน้ำพญานาค ชุดแรก ของอบต. พุคา และหนองเต่า อำเภอบ้านหมี่ชุดแรกๆ ที่สูบน้ำในถ้ำเขาหลวง ขุนน้ำนางนอนบอก ขนไป 10 เครื่อง ผู้ว่าฯเชียงรายชอบใจ
เปิดใจเจ้าของเครื่องสูบน้ำพญานาค ชุดแรกๆ ที่เข้าถ้ำเขาหลวง ขุนน้ำนางนอน ว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ฤทธิ์ ทองดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพุคา อำเภอบ้านหมี่ลพบุรีว่า ได้รับการประสานจาก องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ซึ่งทราบจาก นายนพดล นิยมค้า อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 บ้านแหลม เพชรบุรี เป็นคนผลิตท่อพญานาค ที่สูบน้ำได้เร็วมาก จึงตัดสินใจนำเครื่องสูบน้ำจาก ตำบลหนองเต่าและพุคา จำนวน 10 เครื่องไป ช่วยสูบน้ำในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน
"การเดินทางออกจากบ้านหมี่ ลพบุรีเวลา 16.30 น. ของวันที่ 30 มิถุนายน 2561 เดินทางออกจาก โครงการมูลนิธิชัยพัฒนา ตำบลพุคา อำเภอบ้านหมี่ โดยใช้รถหกล้อยาวของมูลนิธิชัยพัฒนา ตำบลพุคา อำเภอบ้านหมี่ ลพบุรี ไปถึงเช้าเวลา 8.00 น.ของอีกวันที่ 1 กรกฎาคม 2561 แล้วไปพักอยู่ที่ ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืช จักรพันเพ็ญศิริ รอการร้องขอ โดยไปกัน 4 คน มีว่าที่ร้อยตรีณรงค์ฤทธิ์ ทองดี นายก อบต.พุคา นายบุญจันทร์ แปลงนาค สารวัตรกำนันตำบลพุคา มอบให้เป็นหัวหน้าชุด นายศักดินนท์ กระตุดนาค ช่างไฟฟ้าอบต.พุคา นายสมจิต เจริญศิลป์ อปพร. พุคา" ว่าที่ ร.ต.ณรงค์ฤทธิ์เล่าให้ฟัง
ว่าที่ ร.ต.ณรงค์ฤทธิ์ยังเล่าอีกว่า สำหรับเครื่องสูบน้ำพญานาค มีเครื่องสูบน้ำของบ้านหนองเต่า หมู่ 7 จำนวน 2 เครื่อง บ้านหนองเลา ตำบลหนองเต่า 2 เครื่อง ท่อ PVC 8 นิ้ว เทอร์โบเจ็ท พุคาจำนวน 6 เครื่อง เป็นงบของกระทรวงมหาดไทยที่จัดซื้อโดยให้ตามแนวคิดของชุมชนว่าต้องการอะไร ออกแบบเฉพาะในไทยที่เดียว ผลิตขึ้นมาอย่างประหยัดไฟฟ้าที่สุด เคลื่อนย้ายง่าย มีประสิทธิภาพสูงสุดเครื่องละแสนกว่าบาท แต่คุณภาพสูง มอบให้กับ อบจ.เชียงรายเป็นผู้ดูแล
"การขนย้ายเข้าไปในถ้ำมีการไฟฟ้า ทหารคนพร้อมยก ไปอยู่ในโถงปากถ้ำก่อน เพราะเข้าไปดูแลโถง 1-2-3 พอสูบแล้วน้ำยุบลงไปเยอะ หน่วยซีลบอกใช้ได้ ขอให้ยุบอีก 30-40 เซนติเมตร เรียกได้ว่า เครื่องสูบน้ำของบ้านหมี่เป็นพระเอก เพราะภารกิจของเราคือทำให้น้ำยุบแล้วให้ซีลจะได้ไปค้นหาเด็กได้ การเดินเครื่องไม่หยุดจนกระทั่งเครื่องมอเตอร์ไหม้ไปเลย ส่วนของสมุทรสาคร นครปฐม เขาเป็นเครื่องแนวตั้ง ส่วนของอำเภอบ้านหมี่ท่อพญานาคแนวนอน ไปเป็นชุดเดียวกัน" ว่าที่ ร.ต.ณรงค์ฤทธิ์เล่าให้ฟัง
ส่วนเรื่องครูบาบุญชุ่ม ต้องคิดว่าในเมืองไทยเป็นเมืองพุทธที่มีความช่วยเหลือแต่อย่าไปคิดว่าเป็นความงมงาย เพราะมันอยู่คู่กับสังคมไทย มูลนิธิศูนย์พัฒนาพันธุ์พืช จักรพันเพ็ญศิริ ทำอาหารเลี้ยงแต่ก็ไม่ได้ไป ไปหากินแบบเจียมตัวที่ตลาด ได้ นางวัลลา เชื้อพลาม อดีตผู้ใหญ่บ้าน ตำบลมหาสอนบ้านหมี่ โอนเงินไปช่วยจากบ้านหมี่ 4200 บาท จึงรวมเป็นค่าใช้จ่าย
การช่วยเหลือ 13 หมูป่า ออกมาได้เป็นการระดมทรัพยากร เพราะไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นที่ไทย เป็นการโปรโมทประเทศไทย จากการที่ระดมกำลังและข้อมูลทั้งโลกเข้ามาช่วยเหลือ ทำให้รู้ว่า โลกใบนี้ยังน่าอยู่เพราะมีความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ตามคำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9
สรศักดิ์ ทับทิมพราย รายงาน