พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว "อ.ยักษ์" สำรวจคลอง "มหาชัย-สนามชัย"

         เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.61 ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ได้ลงเรือออกเดินทางสำรวจเส้นทางตามแนวคลองมหาชัย-คลองสนามชัย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สมุทรสาคร เพื่อเตรียมพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
         ดร.วิวัฒน์ กล่าวว่า ตามที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้ส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำ ตามลำคลองในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง กระทรวงเกษตรฯ ได้มอบหมายกรมชลประทานสำรวจเส้นทางท่องเที่ยว 5 เส้นทาง เริ่มจากเส้นทางตามแนวคลองมหาสวัสดิ์ และในวันนี้ได้สำรวจเส้นทางตามแนวคลองมหาชัย-คลองสนามชัยเป็นเส้นทางที่ 2

         สำหรับคลองมหาชัย-สนามชัย ขุดขึ้นในสมัยสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 หรือ พระเจ้าเสือ ในสมัยอยุธยาตอนปลาย ระหว่างปีพุทธศักราช 2246-2251 จุดเริ่มต้นคลองอยู่บริเวณคลองบางกอกใหญ่ในปัจจุบัน ไปออกแม่น้ำท่าจีนที่อำเภอเมืองสมุทรสาคร กว้างประมาณ 14 เมตร ลึก 3 เมตร ใช้ในการคมนาคมขนส่ง ปัจจุบันคลองมหาชัย-สนามชัย เป็นแหล่งท่องเที่ยวใน กทม. และสมุทรสาคร โดยช่วงที่อยู่ฝั่งธนบุรีเรียกว่าคลองสนามชัย ฝั่งจังหวัดสมุทรสาครเรียกว่าคลองมหาชัย ปัจจุบันบริเวณดังกล่าวมีโครงการแก้มลิง คลองมหาชัย-สนามชัย (ใช้คลองเป็นแก้มลิง) ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ได้มีพระราชดำริให้ดำเนินโครงการแก้มลิงคลองมหาชัย-สนามชัยขึ้นเมื่อเดือน ก.ค. 2539 โดยมีการก่อสร้างประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำคลองมหาชัย และประตูระบายน้ำในคลองสาขาอื่นๆร่วมด้วย

         โครงการแก้มลิงคลองมหาชัย-สนามชัย ใช้เป็นแหล่งรับน้ำในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเก็บน้ำไว้และระบายออกสู่อ่าวไทยตามจังหวะการขึ้นลงของน้ำทะเล แก้มลิงมหาชัย-สนามชัยสามารถรับน้ำได้ประมาณ 6 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ปัจจุบันตื้นเขินลง คงรับน้ำได้ประมาณ 4 ล้านลูกบาศก์เมตร
         นอกจากนี้ ชุมชนริมคลองมหาชัย-คลองสนามชัย ยังได้ชื่อว่าเป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงโบราณคดีที่น่าสนใจมากมาย ประกอบด้วย 1. ศาลพันท้ายนรสิงห์ ปากคลองโคกขาม 2.วัดโสภณาราม (บ้านขอม) 3.วัดโกรกกราก 4.ศูนย์การเรียนรู้และปฏิบัติการ อนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมหาชัยฝั่งตะวันออก และ 5.พุทธมหาสมุทร ณ ศาลากลางทะเล (พระกลางน้ำ)