CPF ให้คำมั่นยุติการเลี้ยงหมูแม่พันธุ์แบบยืนซองภายในปี 2025

         นายสมศักดิ์ สุนทรนวภัทร หัวหน้าฝ่ายโครงการ องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย กล่าวว่า หมูเป็นสัตว์ฟาร์มที่ถูกเลี้ยงอย่างแออัดมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก พวกมันได้รับความทุกข์ทรมานในทุกช่วงของชีวิต การประกาศให้คำมั่นสัญญาจากผู้ผลิตรายใหญ่นี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงการเลี้ยงหมูแม่พันธุ์
         คำมั่นที่ซีพีเอฟได้ประกาศว่าจะยุติการเลี้ยงหมูแม่พันธุ์ที่ตั้งครรภ์ยืนซอง ในประเทศไทยภายในปี 2025 และในประเทศอื่นๆ ภายในปี 2028 เป็นเหตุเนื่องมาจากการที World Animal Protection องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ได้เริ่มรณรงค์โครงการ Raise Pigs Right เลี้ยงหมูด้วยใจ
         โครงการ "Raise Pigs Right เลี้ยงหมูด้วยใจ" เรียกร้องให้ซุปเปอร์มาร์เก็ตทั้งในประเทศทไทยและทั่วโลกสรรหาเนื้อหมูที่มาจากหมูที่มีสวัสดิภาพดี มีการเลี้ยงแบบรวมกลุ่มแทนการยืนซอง และสามารถแสดงออกทางพฤติกรรมตามธรรมชาติได้
         องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ได้ทำสำรวจออนไลน์พบว่าร้อยละ 93 ของลูกค้าท็อปส์มาร์เก็ต (ในเครือ Central Food Retail) และ เทสโก้ โลตัส ในประเทศไทย มีความต้องการจับจ่ายสินค้าในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ให้คำมั่นว่าจะยกระดับคุณภาพชีวิตหมูในกระบวนการสรรหาสินค้าเพื่อนำมาจำหน่าย
         นอกจากนี้ ผู้ซื้อสินค้าในซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำยังมีความกังวลเกี่ยวกับการดูแลหมูในระบบฟาร์มอุตสาหกรรมค่อนข้างมาก โดยร้อยละ 67 ของผู้ตอบการวิจัยในประเทศไทย ระบุว่า ภาพของหมูในระบบฟาร์มอุตสาหกรรมนั้นทำให้พวกเขารู้สึกตกใจ และหดหู่

         นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การประกาศให้คำมั่นของซีพีเอฟนั้นเป็นก้าวที่สำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของหมู ซีพีเอฟได้เริ่มต้นกระบวนการที่จะทำให้คำมั่นนี้ประสบความสำเร็จตามระยะเวลาที่ตั้งไว้ ในประเทศไทยภายในปี 2025 และในประเทศอื่นๆ ภายในปี 2028
         เราต้องไม่ลืมว่าการจพัฒนาคุณภาพชีวิตหมูนั้นต้องมีการปรับเปลี่ยนหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมต่างๆ เพื่อให้หมูสามารถแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติได้ พื้นผิวที่ให้หมูสามารถอยู่ได้อย่างสบาย คอกคลอดสำหรับแม่หมู และ ยุติการตอนลูกหมู และกรอฟันโดยไม่ใช้ยาบรรเทาความเจ็บปวด
         องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกต้องการให้ผู้ผลิตรายใหญ่ทั่วโลก ให้คำมั่นว่าจะยุติการเลี้ยงหมูแบบยืนซอง ขังไว้ในกรง รวมถึงการตอนอย่างทารุณ เพื่อให้หมูนั้นมีชีวิตอยู่อย่างไม่เจ็บปวดทรมาน สามารถเคลื่อนไหว เข้าสังคม และแสดงออกพฤติกรรมตามธรรมชาติได้

         นายสมศักดิ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การมีสวัสดิภาพสัตว์ที่ดีนั้นเป็นผลดีทั้งต่อสัตว์ ดีต่อธุรกิจ และดีต่อผู้บริโภค สัตว์ที่มีสัวสดิภาพดีนั้น จะเครียด บาดเจ็บ และเป็นโรคน้อยลง ทำให้ลดการใช้ยาปฎิชีวนะ (Anti-biotic) ซึ่งจะให้เนื้อหมูคุณภาพดี ซึ่งดีทั้งต่อตัวคุณและครอบครัวของคุณ
         องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกเรียกร้องให้ประชาชนได้มีส่วนช่วยขับเคลื่อนเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ด้วยการบอกซุปเปอร์มาร์เก็ตให้สรรหาเนื้อหมูที่มาจากการเลี้ยงในระบบที่มีสวัสดิภาพสัตว์ฟาร์มที่ดีมาจำหน่ายแทน โดยประชาชนสามารถลงชื่อร่วมสนับสนุนแคมเปญ "Raise Pigs Right - เลี้ยงหมูด้วยใจ" รณรงค์ยกเลิกวิธีเลี้ยงหมูแม่พันธุ์แบบยืนซองลดความเครียดสัตว์ฟาร์ม ร่วมลงชื่อได้ที่ https://www.worldanimalprotection.or.th/raise-pigs-right-environment หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://www.worldanimalprotection.or.th/