ขนมปิ้งสูตรโบราณ อำเภอท่าวุ้ง ลพบุรี
เรื่องโดย นภาภัทร ทับทิมพราย

         หากพูดถึงอำเภอท่าวุ้ง ลพบุรี เป็นอำเภอเล็กๆ แม้ว่าที่อำเภอท่าวุ้ง จะมีเพียง 9  ตำบล อำเภอท่าวุ้งมีสายน้ำที่ไหลผ่านคือ แม่น้ำลพบุรี และเป็นแหล่งเพราะปลูกพืชไร่ทางการเกษตร พื้นที่เพาะปลูกข้าวแหล่งใหญ่ หลังจากฤดูการทำนา บรรดาชาวบ้านก็จะหันมาประกอบอาชีพ ค้าขายโดยเฉพาะ ขนมโบราณ อย่างขนมปิ้ง ที่ขายดิบขายดีดูอย่าง
         สองสามีภรรยาขายขนมปิ้งมานานกว่า  20  ปี "ประจิม สาคร" อายุ 63 ปี และ "ลูกจันทร์ สาคร" อายุ 60  ปี ขาย ขนมปิ้งสูตรโบราณ อยู่หน้าอาคารพาณิชย์ปากซอยทางแยกตลาดท่าวุ้ง เลขที่ 45 หมู่ 3 ต.บางคู้ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี มากว่า 20 ปีแล้วนั้น ช่างเป็นอาชีพที่ไม่น่าท้าทายอะไรนัก หากแต่ความเป็นจริง การขายขนมปิ้งซึ่งเป็นแบบไทยๆ โบราณของครอบครัวนี้ สร้างรายได้เดือนละเป็นหลักแสนบาท แต่ละวันใช้มะพร้าวเพื่อทำขนมถึงวันละ 50 ผล
         ลูกจันทร์ บอกว่า ยึดอาชีพเป็นแม่ค้าขายขนมปิ้งสูตรโบราณแท้มาตั้งแต่ยังเป็นสาว ได้สูตรมาจากครอบครัว เฉพาะปักหลักขายที่หน้าปากซอยทางเข้าตลอด อ.ท่าวุ้ง ที่อยู่ปัจจุบันก็กว่า 20 ปีแล้ว และขายดีมาตลอด ขายตั้งแต่ขนมปิ้งราคาชิ้นละไม่กี่บาท จนมาปรับราคาเป็น 10 บาท ปัจจุบันราคาชิ้นละ 20 บาท ชิ้นเล็ก 10 บาท แม้ระยะหลังวัตถุดิบจำพวกน้ำตาล มะพร้าว น้ำมันพืช แป้งข้าวเหนียวขึ้นราคาไปมาก อาทิ สมัยก่อนน้ำตาลทรายราคาไม่แพงนัก ในปัจจุบันตกกระสอบละ 1,300 บาท แป้งข้าวเหนียว 15 กิโลกรัมละ 280 บาท มะพร้าวลูกละ 10 บาท ถ้าเผื่อใช้ถ่านปิ้ง ถ่านกระสอบละ 300 กว่าบาท เป็นถ่านไม้เบา น้ำมันพืชขวดละ 40-45 บาท แต่ขายในราคาชิ้นละ 20 บาท ในแต่ละวันจะขายได้ประมาณวันละ 300-400 ชิ้น หรือวันละ 4,000-6,000 บาท หากเป็นช่วงเทศกาลยอดขายจะสูงขึ้นอีก เฉลี่ยแล้วในแต่ละเดือนจะขายได้ถึงหลักแสนบาท หักค่าใช้จ่ายแล้วมีกำไรที่อยู่ได้อย่างไม่เดือดร้อน

         กระนั้นเธอยอมรับว่า ในแต่ละวันไม่สามารถสรุปได้ลงทุนเท่าไร เพราะซื้อแต่ละครั้งในจำนวนที่มาก เช่น แป้งข้าวเหนียวสั่งมาครั้งละ 30-40 ถุง น้ำตาลทรายสั่งมาครั้งละ 10 กระสอบ น้ำมันพืชสั่งมาเป็นลังใหญ่ครั้งละหลายๆ ลัง แต่หากขายในแต่ละวัน 4,000-5,000  บาท มีกำไรโดยเฉลี่ยวันละ 2,000 -2,500 บาท
         สำหรับขนมปิ้งนั้นนับเป็นขนมไทยโบราณมาหลายชั่วอายุคนแล้ว มีส่วนผสมง่ายๆ คือแป้งข้าวเหนียว น้ำตาล และมะพร้าว แม้เด็กสมัยใหม่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยนิยมขนมไทยมากนัก แต่ลูกจันทร์ บอกว่า ขนมปิ้งของเธอมีเด็กซื้อเช่นกัน เพราะเด็กในต่างจังหวัดส่วนใหญ่จะมีพฤติกรรมในการบริโภคตามพ่อแม่ในครอบครัว มากกว่า โดยเฉพาะที่ร้านของเธอนั้นลูกค้าจะเป็นลูกค้าประจำที่นิยมชมชอบในรสชาติการ ปรุงขนมปิ้งของเธอนั่นเอง
         ลูกจันทร์ บอกสูตรการทำขนมปิ้งสูตรโบราณด้วยว่า ก่อนนี้สิ่งที่จะต้องเตรียมในการทำขนมปิ้งนั้น มีแป้งข้าวเหนียว น้ำตาลทราย มะพร้าว น้ำมันพืช เตาถ่าน ถ่านไม้ หรือเตาอบขนมแบบไทยๆ มีช่อง 5 ช่อง ถาดโรบิเนียมไว้ใส่ขนมเพื่อทำการอบ ส่วนผสมนั้นใช้แป้งข้าวเหนียว น้ำตาลทราย มะพร้าวขูดให้เป็นเส้นเหมือนขูดน้ำมาคลุกข้าวเม้า ผสมให้เข้ากันด้วยน้ำสะอาด แต่ละครั้งผสมให้ได้ 4-5 กิโลกรัม จากนั้นก็ไปก่อเตาถ่าน นำถ่านที่ติดไฟใส่ทั้งข้างล่างและข้างบนของเตา แล้วนำถาดโรบิเนียมเทน้ำมันพืชเพื่อให้แป้งขนมร่อน ขั้นตอนต่อมาเทแป้งที่ผสมเสร็จเข้าเตาปิ้ง แต่ปัจจุบันใช้เตาอบแก๊สแทน โดยจะอบประมาณ 10-12 นาที ขนมที่ปิ้งจะเหลืองน่ารับประทาน
         "ที่บ้านเราแบ่งหน้าที่กัน แฟนเป็นคนขูดมะพร้าววันละ 40-50 ผล ฉันเป็นคนปรุงสูตร เพราะต้องทำขนมปิ้งทุกวัน วันละ 300-400 ถาดหรือชิ้น แต่จะยืนอยู่ที่ 300 ชิ้นเป็นหลัก เพราะบางวันต้องยอมรับว่าเหนื่อย และขายเพียงจุดเดียวเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีขนมหม้อแกง ขายด้วยเช่นกัน ลูกค้าของเราส่วนใหญ่มีทั้งชาวบ้าน ข้าราชการ นักท่องเที่ยว ที่แวะเข้าอำเภอท่าวุ้ง ซื้อเป็นของฝากบ้าง เป็นต้น" ลูกจันทร์ กล่าว

         ด้านนายสันติ วงษ์พยอม อดีตปลัดเทศบาลตำบลท่าวุ้ง โดยปัจจุบันเป็น ปลัดเทศบาลตำบลท่าโขลง กล่าวว่าบ้านตนเองนั้นอยู่ที่ตลาดท่าวุ้ง เห็นว่าขนมปิ้งเป็นขนมไทยที่อร่อยและราคาถูก ในเขต อ.ท่าวุ้งเป็นแหล่งขายขนมไทยมีหลายอย่าง นอกจากขนมปิ้งแล้ว ยังมีข้าวแตน นางเล็ด บ้าบิ่น ข้าวหลาม และที่สำคัญคือข้าวหมาก แต่ละอย่างราคาถูกด้วย จึงฝากบอกว่าหากใครไป อ.ท่าวุ้ง ลองแวะซื้อขนมไทยไปบริโภค หากแม่ค้าขายได้ถือเป็นการช่วยกันอนุรักษ์ขนมไทยด้วย เพราะปัจจุบันขนมไทยหลายอย่างหาซื้อกินยาก ขนมจากต่างประเทศมาแทน เช่นเบเกอรี่ เป็นต้น
         สนใจขนมปิ้งสูตรโบราณ สอบถามได้ที่โทร.08-9804-6906, 091-2194933 ลูกจันทร์ ฝากบอกว่า หากสนใจยินดีที่อธิบายให้