การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2560 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคาข้าวปีการผลิต 2560/2561 ด้านการตลาด ตามที่ กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติเสนอ
ทั้งนี้ นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า โครงการที่ ครม.อนุมัติ แบ่งเป็น 3 โครงการ รวมวงเงินงบประมาณกว่า 87,200 ล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อ 33,510 ล้านบาท วงเงินจ่ายขาดกว่า 52,000 ล้านบาท ใช้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดำเนินการ
ได้แก่ 1.โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ซึ่งออกสินเชื่อให้สถาบันเกษตกร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนและสหกรณ์ เพื่อรวบรวมข้าวเปลือกสำหรับจำหน่ายและแปรรูปเป้าหมายรวม 2.5 ล้านตัน จะสนับสนุนสินเชื่ออัตราดอกเบี้ย NLR -1 ปัจจุบัน NLR อยู่ที่ร้อยละ 5 ต่อปี โดยรัฐบาลจะรับชดเชยอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี มีระยะเวลาขอรับเงินชดเชยดอกเบี้ย 12 เดือน โครงการนี้ใช้งบสินเชื่อ 12,500 ล้านบาท วงเงินจ่ายขาด 462.2 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 - 30 กันยายน 2561
2.โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปีและการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและการปรับปรุงคุณภาพข้าวสำหรับเกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกข้าวนาปี โดย ธ.ก.ส. สนับสนุนสินเชื่อให้กับเกษตรกรที่ปลูกข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเหนียว ข้าวเจ้า ข้าวปทุมธานี เป้าหมายรวม 2 ล้านตัน กำหนดอัตราสินเชื่อข้าวเปลือกแต่ละชนิดความชื้นไม่เกินร้อยละ 15 ในอัตราร้อยละ 90 ของราคาเฉลี่ยของข้าวเปลือกแต่ละชนิด โดยข้าวเปลือกหอมมะลิและข้าวเหนียวให้สินเชื่อตันละ 10,800 บาท ข้าวเปลือกเจ้าให้สินเชื่อตันละ 7,200 บาท ข้าวเปลือกปทุมธานี ตันละ 8,500 บาท มีค่าฝากเก็บตันละ 1,500 บาท จ่ายพร้อมสินเชื่อก่อนตันละ 1,000 บาท และจ่ายหลังชำระสินเชื่อครบอีกตันละ 500 บาท รวมงบประมาณสินเชื่อ 21,010 ล้านบาท งบประมาณจ่ายขาด 4,038 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ถึง 30 ธันวาคม 2561 กำหนดเวลาคืนเงินสินเชื่อ ไม่เกิน 5 เดือนนับแต่รับเงิน นอกจากนี้ ยังช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวไร่ละ 1,200 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ต่อครัวเรือน
3.โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อกโดยกระทรวงพาณิชย์ ให้กลุ่มผู้ประกอบการค้าข้าวเปลือกและข้าวสารไม่ให้ข้าวออกสู่ตลาด มีเป้าหมาย 8 ล้านตัน ระยะเวลา 2-6 เดือน และรัฐจะชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการอัตราร้อยละ 3 ตามระยะเวลาที่เก็บสต๊อก วงเงินงบประมาณ 940 ล้านบาท