เป็นผักสวนครัวอีกชนิดที่มีประโยชน์มากจริงๆสำหรับ “ฟักทอง” แต่เพราะอยู่ใกล้ตัวเกินไป อาจทำให้หลายคนมองข้าม หรือมองเพียงด้านเดียวว่ามันเป็นแค่ผักที่ใช้ปรุงอาหารคาวหวานเท่านั้น
เปล่าเลย! สรรพคุณของมันมากมายกว่านั้นเยอะ ง่ายๆ คือเป็นยาทั้งต้น ไม่ว่าจะเป็นเครือหรือเถา ยอดอ่อน ผล เมล็ด ดอก ราก
มาทำความรู้จักกับมันหน่อย ว่าใน 1 ผลของมันนั้น มีประโยชน์ด้านไหนบ้าง และควรบริโภคอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด
1.มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยชะลอวัยความแก่ชรา
2.ช่วยฟื้นบำรุงสุขภาพผิว ให้เปล่งปลั่งสดใส และช่วยปกป้องผิวไม่ให้เหี่ยวย่น
3.มีเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยบำรุงและรักษาสายตา
4.กระตุ้นการหลั่งอินซูลิน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
5.ควบคุมความดันโลหิต บำรุงตับ บำรุงไต บำรุงดวงตา และสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์เก่าที่เสื่อมสภาพ
6.มีคอลลาเจนตามธรรมชาติช่วยทำให้ผิวพรรณผ่องใส
7.มีกรดโปรไพโอนิคซึ่งมีส่วนทำให้เซลล์มะเร็งอ่อนแอลง
8.ให้พลังงานต่ำ ไขมันน้อย จึงเหมาะแก่คนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
9.ป้องกันการเกิดนิ่ว เพราะในฟักทองมีสารคิวเคอร์บิติน มีฤทธิ์ช่วยช่วยขับปัสสาวะ สามารถป้องกันการเกิดโรคนิ่วได้ และ
10.มีฤทธิ์อุ่นซึ่งจะช่วยย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี
นั่นคือประโยชน์โดยรวม ทว่า หากแยกแต่และส่วนจะพบสรรพคุณทางยาดังนี้ ครับ
เนื้อผล เนื้อสีเหลืองมีสารต้านอนุมูลอิสระเรียกว่า “เบต้าแคโรทีน” มีสรรพคุณ
- ป้องกันโรคผิวหนัง ป้องกันมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะผู้สูงอายุ โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหัวใจ โรคเบาหวาน บรรเทาอาการปวดเมื่อยของข้อเข่า บั้นเอว
- บรรเทาอาการหอบหืด ที่เกิดจากโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังในผู้สูงอายุ
- เนื้อฟักทอง ให้พลังงานต่ำ ไขมันน้อย คาร์โบไฮเดรตจะช่วยบำบัดแผลในกระเพาะและลำไส้ คนที่เป็นโรคกระเพาะกินฟักทองนึ่งจะช่วยบรรเทาการปวดท้องได้
เมล็ด - ลดการเกิดโรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ,น้ำมันที่สกัดจากเมล็ด ดื่มกินบำรุงประสาท และบดเป็นผงใช้เป็นยาถ่ายพยาธิตัวตืด
ยอดอ่อน - มีวิตามินเอสูงพอๆกับเนื้อ แต่มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงกว่า ช่วยบำรุงไต ตับ สายตา ป้องกันโรคเบาหวาน
ดอก - มีวิตามินเอ แคลเซียม ฟอสฟอรัส สร้างภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี
วิธีทำรับประทาน :
- ฟักทอง ครึ่ง กก.นึ่ง แล้วราดด้วยน้ำผึ้งกินวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ติดต่อกัน 5-7 วัน ช่วยบรรเทาอาการหอบหืด
- ต้มเนื้อผล 250 กรัมกับน้ำสะอาด ดื่มกินเป็นน้ำแกง ช่วยรักษาเบาหวาน
- ดอก ต้มกับตับหมู 120 กรัม กินรักษาโรคตาบอดกลางคืน
- เนื้อในเมล็ด 120 กรัม คั่วแล้วบดเป็นผง ผสมน้ำอุ่น ดื่มครั้งละ 30 กรัม ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมในสตรีหลังคลอด
- กินเนื้อในเมล็ดฟักทองดิบ 100 กรัม ติดต่อกัน 3 วันช่วยถ่ายพยาธิใส้เดือน
- คั่วเมล็ด 150 กรัมให้สุก กินเนื้อในขับพยาธิตัวตืด
ประโยชน์ทางอาหาร :
- ยอดอ่อน ใบอ่อน ดอกตูม นำไปลวกจิ้มน้ำพริก ผัดน้ำมันหอย ใส่ในแกงหน่อไม้ แกงเลียง แกงเผ็ด ผัดใส่ไข่
- ผลแก่ นำไปประกอบอาหารได้หลายชนิด รวมทั้งนำไปทำขนมหวาน เช่น ฟักทองแกงบวช สังขยาฟักทอง ฟักทองเชื่อม
- เมล็ด นำเอามาอบกะเทาะกินเนื้อข้างใน
ข้อแนะนำเพิ่มเติม :
- ควรเลือกฟักทองพันธุ์ทีมีรสหวาน และมีเนื้อละเอียด จะมีสรรพคุณทางยามาก
- ผู้ที่มีอาการแน่นท้อง และจุกเสียดท้องไม่ควรกิน
- เมล็ดฟักทองคั่ว 1 ถ้วยตวงจะมีไขมัน 13 % ไม่เหมาะกับผู้ที่ควบคุมน้ำหนักอาจจะเพลินกินจนเสียการควบคุม
- เจียวกระเทียมกับเต้าเจี้ยวแล้วผัดกับฟักทอง ลดแน่นท้องได้
เป็นไม้เถาเลื้อย วงศ์ Cucurbitaceae ชื่ออื่น มะฟักแก้ว หมักอื้อ หมากฟักเหลือง
ลำต้น เป็นเถาเลื้อยตามพื้นดิน มีมือเกาะ มีขนปกคลุมลำต้น
ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกตามลำต้น มีลักษณะเป็น 5 หยัก มีขนปกคลุมทั้งใบ
ดอก ออกตามง่ามใบและยอด เป็นดอกเดี่ยวมี 5 แฉก สีเหลืองนวลหรือเหลืองทอง
ผล ใหญ่ มีเปลือกแข็งสีเขียวแก่ หรือสีน้ำตาลแดงแล้วแต่สายพันธุ์
ขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด เติบโตเร็ว ชอบความชื้นและแสงแดดปานกลาง
แหล่งที่มาข้อมูล : กรมแพทย์ทางเลือก และหนังสือ อาณาจักรพืชผัก สมุนไพรสร้างสมอง,วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี,