เป็นพืชอาหารสัตว์ที่ค่อนข้างใหม่ของเกษตรกรบ้านเราสำหรับอัลฟาฟ่า (Medicago sativa) Alfalfa-Feed พืชอาหารสัตว์แห่งอนาคตอันใกล้ที่ประเทศรอบๆบ้านเราปลูกกันล่วงหน้าไปแล้ว
อัลฟัลฟ่า เป็นพืชอาหารสัตว์ตระกูลถั่วที่มีโปรตีนและวิตามินสูง จัดเป็นพืชอาหารสัตว์ที่ดีที่สุดจนถูกขนานว่า ราชินีแห่งพืชอาหารสัตว์ (Queen of forage)
นายสัตวแพทย์อภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์ ได้จัดงาน“อัลฟัลฟาเดย์”งานแสดงความก้าวหน้าด้านอาหาร สัตว์สําหรับอนาคต (“Alfalfa Day”Alfalfa-Feed for the Future) เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2560 ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์สุพรรณบุรี ต.วังยาว อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ที่ผ่านมา เพื่อขับเคลื่อนงานด้านความมั่นคงทางอาหารสัตว์ของประเทศ
เนื่องเพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์ โดยสํานักพัฒนาอาหารสัตว์ได้ศึกษา ค้นคว้า วิจัยด้านพืช อาหารสัตว์ เทคโนโลยีการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชอาหารสัตว์ และการถ่ายทอดเทคโนโลยีจัดการอาหารสัตว์ ให้มีความเหมาะสมกับเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ในแต่ละภูมิภาคของประเทศไทย
โดยในงานนี้ ได้จัดให้มีนิทรรศการแสดงเกี่ยวกับพืชอาหารสัตว์พันธุ์ต่างๆ เช่น หญ้าแพงโกลา หญ้าเนเปียร์ ถั่วลิสงเถาฟลอริเกรซ รวมทั้งการถนอมพืชอาหารสัตว์ในรูปหมักและแห้ง เช่น ต้นข้าวโพดพร้อมฝักหมัก กระถินหมัก ใบรวมยอดและหัวมันสำปะหลังหมัก หญ้าแพงโกลาแห้ง เป็นต้น
ทั้งยังได้จัดแสดงถั่วอัลฟัลฟา พืชอาหารสัตว์ในอนาคตที่มีคุณค่าสำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ที่ต้องการเพิ่มผลผลิตและคุณภาพน้ำนม เนื่องจากถั่วอัลฟัลฟามีโปรตีนและเยื่อใยที่สัตว์สามารถย่อยได้สูงสุดเมื่อเทียบกับพืชอาหารสัตว์อื่นๆ โดยมีการพิสูจน์และยืนยันทางด้านวิทยาศาสตร์ว่าถั่วอัลฟัลฟาส่งผลทางบวกต่อการเพิ่มผลผลิตน้ำนม โปรตีนในน้ำนมและสุขภาพโดยรวมของโคนม
ถั่วอัลฟัลฟา เหมาะสำหรับนำไปผสมร่วมกับต้นข้าวโพดพร้อมฝักในรูปของอาหารผสมเสร็จ (TMR) ปัจจุบันศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์สุพรรณบุรี ได้ดำเนินการศึกษาการเขตกรรมของถั่วอัลฟัลฟาสายพันธุ์ Neo-Tachiwakaba ซึ่งเป็นพันธุ์ที่มีศักยภาพสูง และเหมาะสมกับหลายๆพื้นที่ของประเทศไทยที่อยู่ในเขตร้อนชื้น คาดอีก 1-2 ปี จะผลิตเมล็ดพันธุ์และส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกใช้เลี้ยงสัตว์ต่อไป
ด้วยคุณสมบัติดีเด่นต่างๆ ทำให้ถั่วอัลฟัลฟา เป็นพืชอาหารสัตว์ที่เกษตรกรนิยมปลูกกันอย่างแพร่หลายในหลายๆประเทศ เนื่องจากสัตว์ชอบกิน ซึ่งนอกจากใช้เลี้ยงโคนมแล้ว ยังใช้เลี้ยงสัตว์อื่นๆได้อีกหลายชนิด เช่น โคเนื้อ กระบือ แพะ แกะ ม้า สุกร ไก่ กระต่าย เป็นต้น
ทั้งนี้ อัลฟัลฟ่าเป็นพืชพื้นเมืองของเอเชียตะวันตกและในแถบเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก เป็นพืชที่มีคุณค่าทางอาหารสูง จึงได้รับการขนานนามว่าคือ “ราชาแห่งอาหารทั้งมวล” (AL-FAS-FAH-SHA) หรือเป็น “บิดาของอาหารทุกชนิด” (Father of all foods)
จัดเป็นพืชตระกูลถั่ว ชื่อสามัญ Alfalfa, Lucerne ชื่อวิทยาศาสตร์ Medicago sativa L.จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว FABACEAE และอยู่ในวงศ์ย่อยถั่ว FABOIDEAE
ต้น สูง 30-60 เซนติเมตร เจริญเติบโตได้ในแถบทุกอากาศทั่วโลก ลำต้นมีระบบรากที่มหัศจรรย์ เพราะในบางพื้นที่รากของต้นอัลฟัลฟ่าสามารถชอนไชลงไปได้ลึกกว่า 130 ฟุต จึงสามารถดูดซึมธาตุอาหารได้มากและบริสุทธิ์กว่าพืชอื่นๆ อีกทั้ง ต้นอัลฟัลฟ่าเองก็จะไม่สะสมสารพิษอีกด้วย
ใบ แตกออกเป็น 3 ใบย่อย
ดอก เป็นสีม่วงหรือสีน้ำเงิน
ฝัก หรือผลมีเมล็ดกลมรีสีน้ำตาลอยู่ด้านใน
ขยายพันธุ์ เพาะเมล็ดเติบโตดีในดินร่วนปนทราย ความชื้นปานกลาง แสงแดดเต็มวัน ทนโรค ทนแล้ง
อย่างไรก็ตาม สำหรับเกษตรกรท่านใดสนใจจะปลูกเป็นอาชีพเสริม หรืออาชีพหลักสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักพัฒนาอาหารสัตว์ หรือศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ใกล้บ้านท่าน หรือโทร 02-501-1147
ที่มาข้อมูล : สำนักพัฒนาอาหารสัตว์ กรมปศุสัตว์,เว็บไซต์สำนักงานเลขานุการกรม http://secretary.dld.go.th/index.php/informationdld/newsdld/2803-126-2560