"แก้หวัด"ด้วยสมุนไพรใกล้ตัว!

 

 

ช่วงนี้หน้าฝนอากาศบ้านเราเปลี่ยนแปลงบ่อย แดดจัดอยู่ดีๆ ฝนก็ตกลงมาซะอย่างนั้น โรคที่มาพร้อมฤดูกาลนี้มักเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจเป็นส่วนใหญ่ เช่น ไอ คัดจมูก น้ำมูกไหล ปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ มีเสมหะ  

       ฉะนั้น ถ้าร่างกายของเราอยู่ในช่วงกำลังอ่อนแอ แน่นอนว่าไข้หวัดถามหาแน่! และแน่นอนว่าที่ผ่านๆมา ส่วนใหญ่เราก็จะคว้าเอายาแผนปัจจุบันที่มีในตู้ยามาบรรเทาอาการกัน ก็ว่ากันไปครับ

 

 

       ทว่า ลองเปลี่ยนจากการรักษาด้วยยาแผนปัจจุบันมาเป็นสมุนไทยที่มีสรรพคุณแก้อาการหวัด ที่เราๆท่านๆสามารถหาได้ง่ายๆจากในครัว หรือบริเวณบ้านเราเอง แถมวิธีการใช้ก็ไม่ยุ่งยาก อีกทั้งได้ผลดีด้วย! 

1. กระเทียมสด ช่วยรักษาอาการเจ็บคอ มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย และช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย

          วิธีคือ นำกระเทียมมาปอกเปลือกและสับให้ละเอียด จากนั้นก็รับประทานแบบสดๆ

2. ขิง มีสรรพคุณแก้ไอและขับเสมหะ

          วิธีคือ ขิงแก่ นำมาหั่นให้เป็นแว่น ตำและคั้นเอาน้ำ จากนั้นให้นำมาผสมกับน้ำมะนาว เติมเกลือเล็กน้อย แล้วดื่ม 

 

 

3. หัวหอมแดง มีสรรพคุณช่วยให้หายใจสะดวกและโล่งขึ้น

          วิธีคือ นำหัวหอมแดงทุบให้พอบุบ จากนั้นห่อด้วยผ้าขาวบางแล้วนำไปวางไว้ใกล้ๆ หมอน

4. มะนาวผสมน้ำผึ้ง มีสรรพคุณแก้เจ็บคอ ช่วยให้หายใจโล่ง ลดอาการไอ ลดเสมหะ

          วิธีคือ นำมะนาวมาคั้นให้ได้น้ำ จากนั้นให้ผสมกับน้ำผึ้งและนำมาชงกับน้ำร้อนดื่ม 

 

 

5. ส้มเขียวหวาน ช่วยให้อาการหวัดหายเร็วขึ้น เพราะมีวิตามินสูง

          วิธีคือ ปอกเปลือกกินเลย หรือจะคั้นและเอาน้ำมาดื่มก็ได้

6. ฟ้าทะลายโจร มีสรรพคุณแก้ไข้ แก้อักเสบ แก้เจ็บคอ 

          วิธีคือ นำใบของฟ้าทะลายโจร มาตากแห้งแล้วบดให้เป็นผงปั้นกับน้ำผึ้งเป็นยาลูกกลอน

 

 

7. มะขามป้อม มีสรรพคุณแก้ไอและขับเสมหะ

          วิธีคือ กินผลสดจิ้มกับเกลือ

8. ยูคาลิปตัส ใช้สูดดม สามารถช่วยแก้อาการหายใจไม่สะดวก

          วิธีคือ นำใบของยูคาลิปตัสไปต้ม แล้วเอาน้ำร้อนจากการต้มมาสูดดม

 

มะขามป้อม

ยูคาลิปตัส

ทั้งหมดนี้ เป็นสมุนไพรตัวช่วยสำหรับท่านที่กำลังเป็นหวัด ทว่า หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 5-7 วัน ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไปครับ

ที่มาข้อมูล : เว็บไซต์ เกร็ดตวามรู้.net, วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี,โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, สสส. และเว็บไซต์ http://saranukromthai.or.th