วช.สนองนโยบายรัฐบาล พัฒนาเครื่องสับมันสำปะหลัง

 

  จากนโยบายของรัฐบาลข้อ 8 ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา และนวัตกรรม ด้วยการสนับสนุนงบประมาณในการวิจัยและพัฒนาของประเทศเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมาย ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อให้ประเทศมีความสามารถในการแข่งขันและมีความก้าวหน้าทัดเทียมกับประเทศอื่นที่มีระดับการพัฒนาใกล้เคียงกัน และจัดระบบบริหารงานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัย และนวัตกรรมให้มีเอกภาพและประสิทธิภาพโดยให้มีความเชื่อมโยงกับภาคเอกชน เร่งสร้างสังคมนวัตกรรม และปฏิรูประบบการให้สิ่งจูงใจต่อการนำงานวิจัยและพัฒนาไปต่อยอดหรือใช้ประโยชน์ได้จริง

                ศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์  ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ในการวิจัยและพัฒนา และนวัตกรรม สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้จัดสรรงบประมาณการวิจัยให้แก่ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. ในการบริหารจัดการสนับสนุนการทำวิจัย ตามแผนงานวิจัยมุ่งเป้า เพื่อตอบสนองความต้องการพัฒนาประเทศโดยเร่งด่วน : กลุ่มเรื่องมันสำปะหลัง ตั้งแต่งบประมาณ 2555 ซึ่งได้สนับสนุนทุนอุดหนุนการวิจัยแก่โครงการวิจัย เรื่อง “การพัฒนาเครื่องสับมันปะหลังสำหรับเกษตรกรรายย่อย” ของ นายจรูญศักดิ์  สมพงศ์ และคณะ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา ในการพัฒนาเครื่องสับมันสำปะหลัง เนื่องจากกระบวนการผลิตมันเส้นที่สะอาดจะต้องตัดเหง้าและทำความสะอาด และลดความชื้นโดยการตากแดด การลดขนาดของหัวมันเกษตรกรนิยมใช้มีดสับมันเสี่ยงต่ออันตราย และหากใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ชิ้นมันที่ได้จะใหญ่และตากไม่แห้ง เสี่ยงต่อการเกิดเชื้อรา นอกจากนี้เครื่องสับมันและเครื่องทำความสะอาดไม่ได้ทำงานต่อเนื่องในชุดเดียวกันทำให้เพิ่มขั้นตอนในการทำงานและค่าใช้จ่าย จึงไม่เหมาะกับเกษตรกรรายย่อย ดังนั้นการพัฒนาเครื่องสับมันสำปะหลังนี้จึงเป็นการพัฒนาเครื่องสับหัวมันสำปะหลังที่ประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก คือ ชุดทำความสะอาด และชุดสับหัวมันสำปะหลัง เพื่อลดขั้นตอนการทำงาน และอันตราย รวมถึงลดค่าใช้จ่าย และการเสียหายของผลผลิต ด้วยเครื่องขนาดเล็ก ดูแลรักษาง่าย สามารถขนย้ายและติดตั้งได้สะดวกและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นการยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังให้เหมาะสมกับเกษตรกรรายย่อยของไทยได้ดีขึ้น

              ผู้วิจัยได้พัฒนาเครื่องทำความสะอาดมันสำปะหลัง ทรงกระบอกมีรูขนาด 1 นิ้ว ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของตะแกรง0.759 เมตร ยาว 2.50 เมตร ซึ่งสามารถป้อนมันสำปะหลังเข้าไปในตะแกรงที่มีปริมาตร 40% ของปริมาตรตะแกรง และหมุนความเร็วรอบ 15 รอบต่อนาที ประมาณ 10 นาที โดยใช้ต้นกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 1/2 แรงม้า ความเร็วรอบ1,450 รอบต่อนาที สามารถทำความสะอาดมันสำปะหลังด้วยอัตรา 1,045 กิโลกรัมต่อชั่วโมง หรือ 8,362 ตันต่อวัน ในส่วนของเครื่องสับมันสำปะหลัง จะป้อนมันสำปะหลังเข้าทางบนของตัวเครื่อง หัวมันสำปะหลังจะปะทะเข้ากับจานรูปทรงกรวยแบน เพื่อกระจายสู่ช่องป้อน 4 ช่องแต่ละช่องจะทำมุม 75 องศากับแนวระดับ และจากการทดสอบการตัดหัวมันด้วยหลักการของเพนดูลัม พบว่า มุมของใบมีดที่เหมาะสม คือ 30 องศา มาการตัดที่เหมาะสม คือ 75 องศา และความเร็วของใบมีดที่เหมาะสม คือ 4.34 m/s ซึ่งหัวมันสำปะหลังจะถูกตัดภายในช่องป้อนที่ระยะ 30 เซนติเมตร จากจุดหมุนใบมีดสับ ทำให้ตัดด้วยพลังงานต่ำสุด โดยเครื่องสับมันสำปะหลังใช้ต้นกำลังมอเตอร์ไฟฟ้า ขนาด 2 แรงม้า ความเร็วรอบ 1,450 รอบต่อนาที การทำงานของเครื่องสามารถสับมันด้วยอัตรา 1,310 กิโลกรัมต่อชั่วโมง หรือ 1,047 ตันต่อวัน ที่ความหนาชิ้นมันประมาณ 10.4 มิลลิเมตร

 

                การพัฒนาเครื่องสับมันสำปะหลังสำหรับเกษตรกรรายย่อยที่พัฒนาแล้วนี้ เหมาะสำหรับเกษตรกรรายย่อยที่จะช่วยลดขั้นตอนในการทำงาน แรงงาน เวลา และค่าใช้จ่าย และที่สำคัญจะช่วยรักษาความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินให้กับเกษตรกรผู้ใช้ที่จะต้องไปเสี่ยงกับการใช้เครื่องสับมันสำปะหลังขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ